โทษหนักนะ! พบ 28 ผีน้อย ยังไม่มารายงานตัว งัดกฎหมายเอาผิดแพ่ง-อาญา เผยเพิ่งกลับจากเกาหลี ย้ำให้ไปรายงานตัวถึงวันที่ 10 มี.ค. เวลา 24.00 น.
ผีน้อย / เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา นายชุติเดช มีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา และ แพทย์หญิงจิรพร ภัทรนุธาพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพะเยา ร่วมกันให้ข้อมูล การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 แก่สื่อมวลชนในจังหวัดพะเยา
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
นายชุติเดช กล่าวว่า ไวรัสโควิด-19 สามารถรักษาได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวคือการแพร่ระบาด การติดเชื้อที่ค่อนข้างง่าย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆ ในการดูแลควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี สำหรับกรณีที่มีคนพะเยา เดินทางเกาหลีใต้ และเดินทางกลับเข้ามาที่จังหวัดพะเยา โดยจังหวัดพะเยาขอชี้แจงว่าจังหวัดพะเยาดำเนินการติดตามตรวจสอบมาโดยตลอด ซึ่งดำเนินการก่อนหน้าที่จะเดินทางเข้ามาของแรงงานดังกล่าวด้วย ทางจังหวัดมีข้อมูลบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่เดินมาทางมาจากเกาหลีใต้ และประสานกับทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามอย่างใกล้ชิด
รองผู้ว่าฯพะเยา กล่าวต่อว่า โดยทางจังหวัดพะเยาตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่เดินทางมาจากต่างประเทศว่า มีภูมิลำเนาอยู่ที่ไหน และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตรวจสอบรวมถึงโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งโรงพยาบาลพะเยา เชียงคำ โรงพยาบาลในจังหวัดพะเยา ที่จะเข้าไปตรวจสอบวินิจฉัยว่า บุคคลดังกล่าวติดเชื้อหรือเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ โดยทางจังหวัดพะเยาดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และขอยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด19 แต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ต้องเฝ้าระวังมีเพียง 2 ราย ซึ่งผลตรวจปรากฏว่าเป็น Negative คือไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่อย่างไรก็ตาม ก็ได้เก็บตัวไว้เพื่อให้การตรวจสอบให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการ
ส่วนกรณีที่มีแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศ แล้วเดินทางกลับมาโดยรถโดยสารประจำทางเข้ามายังจังหวัดพะเยานั้น ขณะนี้ทางจังหวัดพะเยาดำเนินการตรวจสอบ และจัดทำประวัติไว้หมดแล้ว และดำเนินการทางด้านสาธารณสุข ดังนั้นทางจังหวัดพะเยา จึงขอให้ประชาชนรับฟังข่าวสารจากทางการ อย่าตื่นตระหนก และอย่าเชื่อข่าวสารที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือข่าวลือที่ไร้แหล่งข่าวจากทางราชการ
ด้านการป้องกันขณะนี้ทางจังหวัดก็บริการตัดเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้า และสอนให้สามารถดำเนินการจัดทำหน้ากากอนามัยเองได้ และสอนวิธีการทำเจลล้างมือฆ่าเชื้อโรคให้ด้วย ขณะนี้กรมการปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการจัดทำหน้ากากอนามัยให้กับสถานศึกษา และประชาชนกลุ่มเสี่ยงด้วย
สำหรับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจพบว่า มีผลกระทบเพียงประมาณร้อยละ 5 เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องประสานกับบริษัท ห้างร้าน โมเดิร์นเทรด ในการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการลดค่าเช่าแผงเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของค่าใช้จ่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถอยู่ได้ สำหรับการจัดงานประเพณีหรืองานรื่นเริงต่างๆที่มีคนมารวมตัวกันมากๆ จะอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานพิจารณา
ด้าน นพ.ไกรสุข เพชระบูรณิน สาธารณสุขพะเยา (สสจ.) จ.พะเยา เปิดเผยว่า ในฐานะได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ กรณีเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 และลงนามในประกาศแจ้งให้ บุคคลแต่ละสาชาอาชีพ, วิชาชีพ แล้วให้เข้ารายงานตัวอย่างเป็นทางการ หรือข้อเท็จจริงลงวันที่ 9 มี.ค. เน้นให้แรงงานนอกระบบทั้งหญิง, ชาย ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่พะเยา 68 ตำบล 9 อำเภอ ที่เดินทางกลับมาจากสาธารณรัฐเกาหลี แล้วยังไม่ไปรับการเฝ้าระวังสังเกตอาการในพื้นที่ควบคุม ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ให้ไปรายงานตัว
พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นลายลักอักษร ต่อสำนักงานสาธารณสุขพะเยา บริเวณศูนย์ราชการศาลากลางจังหวัดฯ และให้ไปรายงานตัวตั้งแต่ กลับจากประเทศกลุ่มเสียง,ประเทศเกาหลี ถึงวันที่ 10 มี.ค. ถึงเวลา 24.00 น.
นพ.ไกรสุข กล่าวต่อว่า ประเมินชาวบ้านที่เป็นแรงงานนอกระบบมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่พะเยา ซึ่งเดินทางกลับจากสาธารณรัฐเกาหลีหรือผีน้อยและยังไม่ได้รับการเฝ้าระวัง ให้ไปรายงานตัวที่สำนักงานสาธารณสุขพะเยารวม 28 ราย/คน และแยกประชาชน, ชาวบ้านที่ไปประเทศกลุ่มเสี่ยง, ประเทศเกาหลีเช่น อ.เมืองพะเยา 5 คน/ราย อ.แม่ใจ 3 คน อ.ดอกคำใต้ 4 คน อ.จุน 1 คน อ.ปง 4 คน อ.เชียงม่วน 2 คน อ.ภูซาง 4 คน และ อ.เชียงคำ 5 คน/ราย
นอกจากนี้ ชาวบ้านที่ไปต่างประเทศ ยังมีช่องทางการรายงานและชี้แจงข้อเท็จจริง ผ่านทางโทรศัพท์ 095-698-4350 หากว่าไม่ได้รับความร่วมมือ หรือผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ รวมไปถึงการให้ข้อมูลเท็จจะถูก ดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งแพ่งและอาญา หรือทั้งจำและปรับแล้วแต่กรณี ว่าจงใจหรือไม่จงใจ ด้วยเหตุและผลมีความผิดอยู่ในข่าย ความมั่นคงภายในระหว่างประเทศ
