เมียร่ำไห้กอดศพผัวนอนดับปริศนาใต้ถุนบ้าน บอกพี่ตายไปลูกจะอยู่อย่างไร (คลิป)

เมียแทบช็อกตื่นลงมาดูผัวหลังจากเมาไม่ได้สตินอนอยู่ใต้ถุนบ้านตั้งแต่เมื่อคืน แต่กลับต้องเจอเหตุสลดนอนเป็นศพเสียชีวิต โดยไม่ทราบสาเหตุ ร่ำไห้แทบขาดใจ บอกเมียกับลูกอีก 3 คน จะอยู่ยังไง

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. ร.ต.อ.สยาม คณาชอบ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้รับแจ้งเหตุมีคนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่บ้านเลขที่ 3 บ้านบ่อบุ ม.9 ต.ไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ จึงแจ้งไปยังแพทย์เวร รพ.อำนาจเจริญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ต.ไก่คำ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง มีใต้ถุนบ้านพบศพชายวัยกลางคนนอนเสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังคือนายกะนากร นันทะวงษ์ อายุ 38 ปี และพบนางจิราพร นันทะวงษ์ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย ร้องไห้แทบเป็นสายเลือดกอดศพของผู้เป็นสามีที่นอนแน่นิ่งอย่างปริศนา พร้อมกับคำพูดที่บอกกับศพของสามีว่า “พี่ตายไปเมียและลูกอีก 3 คนจะอยู่ยังไง” จากนั้นแพทย์เวรจึงได้ชันสูตรศพเบื้องต้น ซึ่งไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด เบื้องต้นสาเหตุการตายนั้นน่าจะเกิดมาจากหัวใจวายฉับพลัน

จากการสอบถามภรรยาของผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาสามีของตนเมามากและขับรถกลับมาที่บ้าน พอมาถึงก็บอกให้ตนเอามาน้ำมาให้ดื่ มและบ่นกับตนว่าปวดขา ตนจึงนำน้ำมันนวดมาให้สามีและนวดบริเวณขาที่ปวดให้ ซึ่งโดยปกติแล้วเวลาที่สามีของตนเมากลับมา จะนอนที่เถียงใต้ถุนบ้านอยู่เป็นประจำ ด้วยความที่ตนเป็นห่วงสามี ตนจึงนั่งเฝ้าสามีจนถึงเมื่อเวลาประมาณตี 2 พอสามีหลับตนก็จึงได้กลับขึ้นไปนอนกับลูกบนบ้าน

จนกระทั่งเมื่อตอนตี 5 ตนตื่นลงมาเพื่อจะหุงหาอาหารตามปกติเช่นทุกวัน ตนก็เดินมาดูสามีที่กำลังนอนอยู่ด้วยความเป็นห่วงว่าจะเป็นยังไงบ้าง แต่ก็พบว่าสามีของตนนั้นเสียชีวิตแล้ว จึงให้ลูกไปเรียกลุงที่อยู่ข้างบ้านมาดูและแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี เพราะตนไม่ได้มีอาชีพอะไร เป็นแค่แม่บ้านดูแลลูก เพราะส่วนใหญ่สามีจะเป็นคนทำงานหาเงินเข้าบ้านดูแลลูกเมีย พอสามีตายแบบนี้ตนและลูกๆ อีก 3 คน ก็ไม่รู้จะอยู่กันแบบไหน

ด้าน ร.ต.อ.สยาม คณาชอบ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่าง จากการชันสูตรศพของแพทย์ก็ลงความเห็นว่าหัวใจวายฉันพลัน และบวกกับการที่ได้สอบถามข้อมูลจากภรรยาและชาวบ้านทำให้ทราบว่าผู้ตายมีนิสัยชอบดื่มสุราอยู่เป็นประจำทุกวัน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หัวใจวายฉับพลันก็เป็นไปได้ ซึ่งทางญาติเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรในสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และให้ทางญาตินำศพของผู้ตายไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป