แห่งแรกในไทย! เปิดวัดรับ ‘พระ-สามเณร’ กลุ่มเสี่ยงติด โควิด เฝ้าดูอาการ 14 วัน เผยใช้อาคาร 4 หลัง ดูแลทุกเรื่องตั้งแต่อาหารยันยารักษา

โควิด / เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่วัดทับไทร หมู่ 1 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พระครูสถิต ธรรมมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดทับไทร นำญาติโยมพร้อมผู้สื่อข่าวดูอาคาร 4 หลังภายในวัดทับไทร ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่รับพระกลุ่มเสี่ยงติดโควิดแห่งแรกในไทย โดยเปิดวัดรับพระสงฆ์ สามเณร กลุ่มเสี่ยงติดโควิด เข้าพักรอดูอาการได้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาคารแต่ละหลังสูง 1 ชั้น มีเตียง ม่าน ห้องน้ำ แอร์ ห้องครัว พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ทั้งหมดถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี การระบายอากาศภายในอาคาร พบว่าอากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้ภายในอาคารไม่ร้อนอบอ้าว ท่ามกลางความเงียบสงบ ร่มรื่นภายในวัดดังกล่าว

พระครูสถิต ธรรมมานุวัตร เปิดเผยว่า อาคารทั้ง 4 หลังประกอบด้วยอาคารนอน โรงครัว หรือแม้แต่ห้องสำหรับตรวจโรค เดิมทีวัดทับไทรจะใช้เป็นสถานที่นวดแผนโบราณ ที่วัดทับเปิดสอนหลักสูตรการนวดให้แก่ญาติโยมหรือคนทั่วไปที่ต้องการมีอาชีพ ตั้งใจว่าจะเปิดให้เข้ามานวดได้ในวันที่ 29 มี.ค. นี้ แต่เมื่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รุนแรงขึ้น เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยทั้งหมอนวดแผนไทยและผู้มารับการนวด จึงเปลี่ยนมาใช้อาคารเป็นสถานที่ให้พระสงฆ์ สามเณร ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงรับไวรัสโควิด 19 พักอาศัยรอดูอาการแทน

พระครูสถิต กล่าวต่อว่า การเปิดวัดให้พระสงฆ์ สามเณร กลุ่มเสี่ยงเข้ามาพัก วัดทับไทรเป็นแห่งแรกของประเทศที่ทำเรื่องนี้ ทำเพราะรู้สึกห่วงใยพระสงฆ์ สามเณร ทั่วประเทศที่มีจำนวนนับแสนๆ รูป และเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่เสี่ยงได้รับเชื้อ เนื่องจากต้องอยู่ท่ามกลางญาติโยม จึงมีโอกาสได้รับเชื้อได้ แต่กลับยังไม่มีการเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ เพราะคนทั่วไปยังรู้สึกว่าพระสงฆ์ สามเณร ไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันการเข้ามาพักทางวัดทับไทรรับพระสงฆ์ สามเณร จากทุกวัด ทุกสำนักสงฆ์ทั่วประเทศ และจะเป็นผู้ดูแลทุกเรื่อง ทั้งอาหารหรือสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นตลอดระยะเวลาการเฝ้าดูอาการทั้ง 14 วัน

ด้าน นายวิทูรรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า อาคารทั้ง 4 หลัง ทางจังหวัดยินดีรับไว้เป็นสถานที่สำหรับรับพระสงฆ์ สามเณร ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ถือว่าเป็นความกรุณาของทางวัดที่ได้ช่วยเหลือทางราชการ

ขณะเดียวกันในส่วนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ภายใน จ.จันทบุรี ยังไม่พบมีผู้ได้รับเชื้อดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ไม่ได้ประมาทเพราะจ.จันทบุรี เป็นจังหวัดชายแดน มีพรมแดนติดประเทศกัมพูชา แต่ละวันมีชาวกัมพูชาและคนไทยข้ามแดนไปมาติดต่อกันไม่ขาดระยะ จึงเพิ่มมาตรการอย่างเข้มข้นในการเฝ้าระวัง

นอกเหนือจากการคัดกรองป้องกันเรื่องนี้แล้ว ต่อไปชาวกัมพูชาทุกคนที่เข้ามา จ.จันทบุรี จะต้องมีหนังสือรับรองว่าไม่เป็นผู้ป่วยจากไวรัสโควิด19 จากกระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชามายืนยันกับ จ.จันทบุรี ด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถอนุญาตให้เข้ามายังจ.จันทบุรี ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน