สุดช็อกเด็กหญิง14 แขวนคอลูกน้อย ซ่อนศพไว้หลังบ้านหลายวัน เผยเหตุลงมือสลด

แม่สุดช็อกเด็กหญิงแขวนคอลูกซุกศพหลังบ้านหลายวันเอารถเข็นเด็กทับไว้เผยเหตุลงมือสุดสลด – เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ร.ต.อ.ชาญชัย ภูล้นแก้ว รอง.สว.(สอบสวน)สภ.เซกา บึงกาฬ ได้รับแจ้งว่ามีเด็กชายวัย 1 ขวบเสียชีวิตอยู่ที่บ้าน หมู่ 10 ในอำเภอเซกา จ.บึงกาฬ จึงเดินทางไปตรวจสอบ

เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
เพิ่มเพื่อน

ที่เกิดเหตุ พบเด็กเสียชีวิตในสภาพถูกรถเข็นเด็กทับไว้ ไม่สวมเสื้อ จากการสอบถาม น.ส.ชรินทร์ทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เจ้าของบ้าน ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ผู้เป็นแม่เด็ก มาหาน้องสาว แล้วทะเลาะกับแม่ ต่อมาแม่เด็กเดินทางกลับพร้อมบอกว่าได้พาลูกกลับไปด้วย แต่วันนี้มาพบศพเด็กอยู่หลังห้องน้ำ ทำให้ตกใจมาก

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมเด็กหญิงเอ ผู้เป็นแม่ ขณะกลับมาดูศพลูก จึงคุมตัวไปสอบสวน ซึ่งเด็กหญิงเอ ให้การว่า เมื่อหลายวันก่อน ได้นำรถจักรยานยนต์ของพ่อเลี้ยง ออกไปหาเพื่อน ทิ้งลูกไว้กับแม่นานกว่า 3 วัน

เด็กหญิง14 แขวนคอลูกน้อย ซุกศพหลังบ้าน หลายวัน

พอกลับมา พ่อเลี้ยงได้ทำร้ายตนโดยตบที่ใบหน้าแล้วก็ปาก 2-3 ที ตนเกิดความน้อยใจที่พ่อเลี้ยงทำร้าย จึงหนีออกจากบ้าน มาขอพักที่บ้านของ น.ส.ชรินทร์ทิพย์ ก่อนเกิดเหตุตนนั่งร้องไห้คิดอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะใช้เชือกผูกกับขื่อบ้านแขวนคอลูกจนเสียชีวิต

จากนั้นตนนั่งคิดอยู่หลายชั่วโมง กลัวความผิดก็เลยใช้ผ้าห่มห่อร่างลูกชายไปซ่อนไว้หลังห้องน้ำหลังบ้าน แล้วก็ใช้รถเข็นเด็กทับไว้ แล้วโทรศัพท์ให้เพื่อนมารับ ไปเปิดห้องพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งห่างจากที่เกิดเหตุราว 3 กิโลเมตร

วันต่อมากลับมาดูศพลูกอีก วันนี้ก็กลับมาดูอีก แล้วก็พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตนว่าเป็นผู้ก่อเหตุ จึงถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เซกา แรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจที่โดนแม่ด่า พ่อเลี้ยงทำร้าย ด้วยความคิดไม่ตกและโมโหจึงก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นร้อยเวรเจ้าของคดีได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุแก่ความตาย พร้อมเตรียมส่งศพเด็กชายไปให้แพทย์ชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตให้แน่ชัดอีกครั้งก่อนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม

หลังทราบข่าว นางเพ็ญประภา (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี แม่ของเด็กหญิงเอ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีเรื่องทะเลาะกันจริง ซึ่งมีเรื่องแบบนี้ประจำ เวลาหนีออกจากบ้านก็จะเอาลูกไปด้วย แล้วก็หอบลูกกลับมาให้แม่เลี้ยงเหมือนเดิม ไม่คิดว่าลูกสาวตัวเองจะกล้าฆ่าลูกในไส้ได้ลงคอ

cr.อมรินทร์ทีวี , มติชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน