เปิดสุสาน ลงโทษคนดื้อ เสี่ยงติดโควิดไม่กักตัว เจอนอนป่าช้า ข้างเมรุเผาศพ 14วัน
วันที่ 27 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำตำบลหมู่บ้านเบิงเคลิ่ง ชายแดนจังหวัดตาก งัดไม้เด็ดสำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ยอมกักตนเองที่บ้านพัก พร้อมจัดศาลาสุสานข้างเมรุเผาศพไว้ให้กลุ่มคนดื้อมากักตัวเอง จนไม่มีใครกล้าสวนมติหมู่บ้านแม้แต่รายเดียวและเป็นแห่งแรกในไทยที่ใช้สุสานกักคนดื้อโควิด-19 ได้ผลเห็นทันตาเห็น กลายเป็นที่ฮือฮาไปทั่วพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดตาก หลังทั่วประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาระดับโลกกับเจ้าไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วประเทศไทยในเวลานี้
เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
นายชัยวัฒณ์ เชี่ยวชาญสิงขร ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลบ้านเปิงเคลื่ง เผยว่า เป็นสถานที่กักตัวคนดื้อที่ไม่ยอมกักตัวเราเตรียมไว้ให้ท่านพร้อมแล้วทำจริง ไม่ได้ขู่ ประชุมปรึกษาหารือเรียบร้อยแล้ว หากท่านที่เดินทางมาจาก กทม.และพื้นที่กลุ่มเสี่ยงต่อ ไวรัสCOVID-19 ให้ปฎิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งคัดโดยเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น
ซึ่งถ้าหากฝ่าฝืนคำสั่งทางเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจะเชิญท่านไปกักตัวในสถานที่แห่งนี้คือป่าช้าเผาศพเป็นเวลา 14 วัน และจะมีเจ้าพนักงานควบคุมโรคจะเฝ้าท่านอยู่ที่ปากทางเข้าออกสุสานแห่งนี้ตลอด 24 ชม ทั้งนี้เพื่อควบคุมป้องกันโรคเพื่อตัวท่านและชุมชนปลอดโรคติดต่อ
ซึ่งล่าสุดพื้นที่จังหวัดตากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมแล้ว 2 ราย โดยรายแรกเป็นชายชาวปากีสถานขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแม่สอด ส่วนรายที่สองเป็นหญิงไทยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตจังหวัดตาก ซึ่งผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสองรายนี้ มีประวัติเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
ก่อนตรวจพบว่าทั้งสองติดเชื้อหลังมีอาการแสดงออกมาจนถูกส่งตัวเข้ารักษาในห้องแยกเชื้อพิเศษทั้งโรงพยาบาลจังหวัดตาก ซึ่งหลังผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดตากต่างก็เสริมจุดตรวจทุกหมู่บ้านทุกชุมชนต่างออกกฎเหล็กมาบังคับใช้กับกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ดขาดตลอด 24 ชั่วโมง