พี่สาว “เอิร์น” เข้าเยี่ยมน้องสาวหลังเข้าสู่วันที่ 3 ของการคุมขังที่เรือนจำขอนแก่น ขณะที่ “เอิร์น” บอกไม่ต้องเป็นห่วง ขอเพียงเครื่องสำอาง ไม่เอาเงิน ด้าน ผบ.เรือนจำ ระบุส่งนักจิตวิทยาเข้าพูดคุยกับทีมสวยหั่นศพแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณภายในจุดเยี่ยมญาติ ด้านหน้าเรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น ยังคงมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาติดต่อขอเยี่ยมผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าช่วงเช้าของวันนี้มีครอบครัวของ น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอเข้าเยี่ยม น.ส.เอิน ด้วยเช่นกัน
ซึ่งจากการสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นพี่สาวของเอิร์น บอกว่าการเข้าเยี่ยมวันนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่น้องสาวได้เข้าสู่การคุมขังเป็นวันที่ 3 หลังศาลมีคำสั่งคุมขังน้องสาวมาตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากการสอบถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไปแล้ว ยังคงมีการถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยน้องสาวบอกว่า วันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมานั้นได้ไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยได้ดื่มกินจนเมา โดยที่ น.ส.เปรี้ยว พร้อมเพื่อนได้ขับรถมารับ และบอกว่าจะขับรถไปส่งที่บ้าน แต่ น.ส.เปรี้ยวไม่ได้ไปส่งกลับพาตัวไปร่วมก่อเหตุฆ่าหั่นศพ ตามที่สถานที่ต่างๆ
“แม้จะรู้ว่าน้องสาวไม่ใช่คนแบบนั้น แต่เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้แล้วก็ต้องจำยอมรับผิด รับโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อถูกคุมขังขอให้ทำตัวให้ดี โดยที่ครอบครัวจะมาเยี่ยมและพูดคุยกับน้องเอิร์น โดยเฉพาะพ่อและแม่ ที่จะมาเยี่ยมน้องเอิร์นหลังกระแสข่าวเงียบลงไปกว่านี้ ทั้งนี้วันนี้เข้าสู่วันที่ 3 ของการควบคุมตัว โดยเอิร์นถูกแยกให้นอนห้องเดี่ยวในแดนหญิงของเรือนจำ มาแล้ว 2 คืน ก็มีร้องไห้บ้างบางเวลา และเครียดเป็นบางครั้ง แต่จากการพูดคุยกันน้องเอิร์น ก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องกังวล เพราะยังอยู่ในช่วงปรับสภาพจิตใจ ส่วนเรื่องเงิน ก็บอกครอบครัวไม่ต้องนำมาให้เพราะไม่ได้ใช้ ขอเพียงเครื่องสำอาง โดยเฉพาะครีมกันแดด แป้งขัดผิว และดินสอเขียนคิ้วเท่านั้น”
นายวีรชัย เพชรรัตน์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ ซึ่งท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์เน้นย้ำในขั้นตอนของการควบคุมดูเป็นอย่างดี ให้เป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดส่งนักจิตวิทยาประจำเรือนจำกลางขอนแก่น มาร่วมพูดคุยพร้อมกับสอบประวัติ ในชั้นต้น และในขณะนี้ได้มีการส่งเรื่องแจ้งไปยัง รพ.ขอนแก่น เพื่อขอรับการสนับสนุนนักจิตวิทยามาสอบประวัติและร่วมพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง
“ขณะนี้ทุกคนปรับสภาพจิตใจได้แล้ว และทุกคนต้องทำตามกฎระเบียบของเรือนจำเหมือนกับผู้ต้องขังรายอื่นที่ถูกคุมขังอยู่ในแดนหญิง รวมกว่า 500 คน มีเพียง น.ส.เปรี้ยวที่มีอาการเครียดเป็นบางครั้ง และทั้งหมดยังคงแยกการคุมขังออกจากกัน เนื่องจากผู้ต้องหาคดีเดียวกันจะไม่สามารถคุมขังร่วมกันได้”
