จากกรณีฆาตกรรมสามเณรปลื้ม หรือ ศุภโชค เอกเกียรติกุล อายุ 17 ปี ฝังศพโบกปูนทับไว้ภายในวัดวังตะวันตก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม น.ส.ปิยฉัตร หรือบิว อรุณสกุล ผู้จัดการบัญชีวัด นายเด่นชัย ภูมินิยม หรืออดีตพระเด่นชัย สามีของน.ส.ปิยฉัตร และนายสุริยา กุศลสุข หรืออดีตสามเณรสุริยา โดยทั้ง 2 คนหลังให้ การรับสารภาพ ล่าสุดสั่งอายัดทรัพย์สินนาย เด่นชัยและน.ส.ปิยฉัตร พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีนับ 10 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่วัดวังตะวันตก อ.เมือง นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.วันชัย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พระครูพรหมเขตคณารักษ์ เจ้าอาวาสวัดวังตะวันตก นายจรัญ มารัตน์ ผอ.สนง.พระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ติดต่อช่างทำกุญแจที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อทำการสะเดาะกุญแจประตูขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 ของกุฏิเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นสถานที่ในการเก็บวัตถุโบราณล้ำค่าของทางวัด
ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธสิหิงค์เลขที่ 999 ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จมาเททองเมื่อปี 2517 และมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่เท่าคนจริง ซึ่งเป็นพระลากเก่าแก่ของวัด โดยเมื่อช่างทำกุญแจสะเดาะกุญแจแล้วเสร็จ ทางวัดขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนให้รออยู่ด้านล่างจะลงมาแถลงข่าวอีกรอบหนึ่ง จากนั้นก็ได้ขึ้นไปตรวจสอบบนชั้น 2 ของกุฏิ ซึ่งเป็นที่อยู่ของนกนางแอ่นจำนวนมาก ที่ทางผู้ต้องหาได้ทำเป็นบ้านนกนางแอ่น เพื่อเก็บรังนกไปขายด้วย โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการขึ้นไปตรวจสอบก็ได้ลงมาด้านล่าง
พระครูพรหมเขตคณารักษ์อาวาส วัดวังตะวันตก กล่าวภายหลังการตรวจสอบว่า จากการตรวจสอบพบว่าวัตถุโบราณของวัดยังอยู่ครบ ไม่มีการสูญหายหรือมีร่องรอยการเคลื่อนย้าย ทั้งพระลากเก่าแก่ขนาดเท่าคนจริงและพระพุทธสิหิงค์ รวมถึงถ้วยชามโบราณเก่าแก่ก็ยังอยู่ครบ
ส่วนที่ชั้น 2 ของกุฏิยังพบว่ารังนกนางแอ่นจำนวนมาก ด้วยซึ่งทราบว่าจะมีการเก็บรังนกไปขายเดือนละประมาณ 10 กิโลกรัม ซึ่งก็ถือว่าดี จะได้เป็นรายได้ของวัดในการทะนุบำรุงวัดต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ทางวัดก็คงจะมีการจัดทำบัญชีวัตถุโบราณของวัดไว้เป็นบันทึกหลักฐานว่ามีสิ่งใดบ้าง โดยมีคณะกรรมการร่วมกันเป็นสักขีพยานต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหลุมฝังศพสามเณรปลื้มมีบรรดาสามเณรจากวัดสระเรียงมาช่วยกันนำทรายมาปรับถม เพื่อให้เกิดความสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อยในวัดวังตะวันตก ในแต่ละวันก็จะมีชาวบ้านจำนวนมากเข้ามาดูบริเวณหลุมฝังศพเณรปลื้ม
นางกรองทอง บุญประกอบ อายุ 65 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.ท่าซัก อ.เมือง กล่าวว่า อยากให้มีการสร้างรูปปั้นให้สามเณรปลื้มเพื่อเป็นที่ระลึกในคุณงามความดี เพราะหากวันนี้สามเณรปลื้มไม่ตาย วัดวังตะวันตกก็ยังคงถูกกลุ่มอิทธิพลครอบงำ ไม่กลับมาเป็นวัดเหมือนเดิม ตนยังจำได้เมื่อตอนเป็นวัยรุ่น เวลาเข้ามาเที่ยวในตัวเมืองก็จะมากินข้าวกินน้ำและนั่งพักผ่อนในวัดวังตะวันตก ซึ่งเป็นสถานที่ร่มรื่นมากมีต้นไม้มากมาย มีแผงพระ มีร้านค้าร้านอาหาร เมื่อเรากินข้าวกินน้ำแล้วก็นั่งพักผ่อน เดินเช่าพระ นั่นคือภาพบรรยากาศเดิมของวัดวังตะวันตก แต่มาเห็นวันนี้ใจหาย มันเป็นคนละบรรยากาศกับอดีต ซึ่งการตายของสามเณรปลื้ม ถือว่าจะทำให้วัดกลายมาเป็นของชาวพุทธอีกครั้ง
ด้านนายจรัญ มารัตน์ ผอ.สนง.พระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังจากนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนา ก็จะมีการเข้ามาดำเนินการตรวจสอบ และดูแลในเรื่องของทรัพย์สินของวัดวังตะวันตกว่ามีอะไรบ้างก่อนจะมีการจัดทำบัญชีให้เรียบร้อย และต่อไปหลังจากนี้ก็คงจะต้องมีการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินของวัดทุกวัดในจังหวัด โดยตนจะทำหนังสือไปยังผู้บังคับบัญชาก็จะมีการตรวจสอบดูแลโดยสนง.พระพุทธฯแล้วรายได้ก็จะคืนให้วัดแต่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาก็จะดูแลเองทั้งหมด
