เปิดใจนักธุรกิจสาวเมืองพัทยา ปรับโรงแรมให้เป็นโรงพยาบาลสนามช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ยันคนในพื้นที่ให้ความร่วมมือเต็มที หวังผ่านวิกฤต กลับมาฟื้นธุรกิจอีกครั้ง

วันที่ 7 เม.ย. ที่โรงแรมแกรนด์เบลล่า เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ผู้แทนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานส่งเสริมหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เจ้าหน้าที่จากเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่จากจากโรงพยาบาลบางละมุง ร่วมประชุมเพื่อหารือประเด็นการเตรียมความพร้อม ในการดำเนินการจัดตั้งโรงแรมแกรนด์เบลล่าให้เป็นโรงพยาบาลสนามเอกชนแห่งแรกของจังหวัดชลบุรี หลังจากที่ทางโรงแรมเสนอตัวให้ใช้สถานที่ของโรงแรมเป็นโรงพยาบาลสนามในการดูแลรักษาอาการผู้ป่วยโควิด-19 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

กรณีดังกล่าวทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี จึงพิจารณาอนุมัติให้ใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อเก็บตัวและเฝ้าระวังผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งในการดำเนินการจัดตั้งให้โรงแรมแกรนด์เบลล่าเป็นโรงพยาบาลสนามนั้นจะต้องได้รับการตรวจ สอบในเรื่องของความพร้อมจากกองทุนส่งเสริมหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่ามีความพร้อมหรือไม่

สำหรับหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความพร้อมของโรงพยาบาลสนามตามเกณฑ์ของกองทุนส่งเสริมหลักประกันสุขภาพนั้น จะต้องมีองค์ประกอบสำคัญ อาทิ ระบบระบายอากาศ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบการจัดการขยะ ระบบขนส่งผู้ป่วย เป็นต้น

ซึ่งวันนี้ คณะกรรมการ สปสช.ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อให้เข้าสู่ระบบและหลักเกณฑ์ของโรงพยาบาลสนามที่ได้กำหนดไว้ ทั้งนี้หากพบว่าปรับปรุงไม่มากนัก ก็จะสามารถเปิดใช้งานได้ภายในวันที่ 9 เมษายนนี้ โดยจะมีห้องพักรองรับทั้งสิ้น 134 ห้อง ในเฟสแรก ขณะที่หลักการในการนำคนไข้เข้ามาพักเพื่อเฝ้าระวังนั้นจะต้องเป็นคนไข้ที่มีอาการไม่มากนักหรือคงที่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ โดยเมื่อรักษาใน รพ.ของรัฐ และเอกชน เป็นเวลา 7 วันแล้วอาการคงที่ อาการของปอดไม่รุนแรงก็สามารถย้ายผู้ป่วยมานอนพักใน รพ.สนาม ทั้งนี้เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลของรัฐที่มีห้องพักไม่เพียงพอ

นอกจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กรมควบคุมโรค จะเตรียมการส่งมอบตู้คัดกรองให้กับเมืองพัทยา 2 ตู้ ไว้ใช้เพื่อทำการคัดกรองบุคคลในกลุ่มเสี่ยง เพื่อใช้ในการเก็บตัวอย่างน้ำคัดหลั่ง หรือการทำหัตถการ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการนำตัวอย่างที่ได้ไปดำเนินการตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการที่อีกครั้ง โดยจะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ในการดำเนินการดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถคัดกรองในส่วนของผู้ที่มีความเสี่ยงว่าปัจจุบันกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ติดเชื้อแล้วหรือไม่ เพื่อไม่ให้ไปแพร่ระบาดยังกลุ่มอื่นได้อีก ซึ่งหากพบว่ากลุ่มเสี่ยยงดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ก็จะดำเนินส่งตัวเพื่อทำการรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลต่อไป ทั้งนี้จุดคัดกรองดังกล่าวสามารถคัดกรองกลุ่มเสี่ยงได้วันละประมาณ 120 เคสด้วยกัน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
ด้านน.ส.มรกต กุลดิลก เจ้าของโรงแรมแกรนด์เบลล่า เปิดเผยว่า เรื่องนี้เบื้องต้นเป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการธุรกิจในตัวเมืองพัทยา ตั้งแต่ไวรัสระบาด มาตรการของรัฐบาลก็เข้มข้นขึ้น ส่งผลให้แขกที่เข้าพักน้อยลง อย่างที่แกรนด์เบลล่า จากจำนวน 500 ห้องเหลือลูกค้าเพียง 3-4 ห้อง จึงได้ประสานให้ลูกค้าไปพักที่โรงแรมในเครือ เพื่อจะใช้สถานที่ ครั้งแรกตั้งใจใช้เป็นที่กักตัวของบุคคลที่มีความเสี่ยง แต่เมื่อได้รับการประสานว่าน่าจะใช้พื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนาม ก็พร้อมให้การสนับสนุน

น.ส.มรกต กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณผู้ประกอบการทุกคนในเมืองพัทยา ที่มาร่วมมือร่วมใจกันผ่านวิกฤตครั้งนี้ ยอมรับว่ามีข้อกังวลอยู่บ้าง เรื่องความเชื่อมั่นของลูกค้า เมื่อเอาสถานที่ใช้เป็นโรงพยาบาลสนามดูแลผู้ป่วยโควิด แต่ก็ต้องช่วยกันดำเนินการ ซึ่งทุกคนก็ให้ความช่วยเหลือคนละไม้คนละมือ ใครมีอะไรก็นำมาสนับสนุน เพราะเราเข้าใจว่างบประมาณของรัฐก็มีจำกัด หรืออาจมีปัญหาอื่นๆ แต่ในฐานะที่เราอยู่ในพื้นที่ ถ้าเราไม่ช่วยให้ทุกอย่างคลี่คลายโดยเร็ว เราทุกคนก็ต้องได้รับผลกระทบ

“ในฐานะนักธุรกิจก็ได้รับผลกระทบเยอะ ลูกค้าไม่มี ไม่มีรายได้ แต่ก็ต้องช่วยกันให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อพัทยาจะได้ฟื้นกลับมาเป็นเหมือนเดิม เราทุกคนที่ทำธุรกิจก็จะได้ทำงานกันต่อ ทุกคนจึงร่วมมือร่วมใจ ไม่เฉพาะผู้ประกอบการ แต่คนในพื้นที่ก็ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดี”น.ส.มรกต กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน