ผู้ว่าฯ นครพนม คุมเข้มโควิดระบาด สั่งปิดเมืองห้ามเข้าออก เริ่ม13เม.ย. ฝ่าฝืนมีโทษหนัก บุคคลที่ได้รับการยกเว้น ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอ

วันที่ 9 เม.ย. ที่ศาลากลาง จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม พ.ต.อ.ฌรงค์ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม นพ.ชิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุข นพ.ยุทธชัย ตริสกุล ผอ.รพ.นครพนม ร่วมแถลงมาตรการยกระดับคุมเข้มป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โควิด-19 โดยมีคำสั่งประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.นครพนม ห้ามบุคคลเดินทางเข้า-ออก/ข้ามเขต มีผลตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.ที่จะถึงนี้

เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
เพิ่มเพื่อน

นายสยาม กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ยังคงพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกรุงเทพฯและปริมณฑล และในอีกหลายจังหวัดทางภาคใต้และภาคตะวันออก อีกทั้งจะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ แม้จะไม่ใช่วันหยุดแต่มีการคาดการณ์กันว่าจะมีผู้คนเดินทางกลับภูมิลำเนา จะทำให้การแพร่เชื้อขยายเพิ่มวงกว้างมากขึ้น เพื่อเป็นการระงับยับยั้งโรคร้ายแรงดังกล่าว และผลกระทบในวงกว้าง

จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ7 (1) ของข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่1) ลงวันที่ 25 มี.ค.2563 และ(ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 2 เม.ย.2563

นายสยาม กล่าวต่อว่า ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จ.นครพนม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จึงเสนอคำสั่งห้ามบุคคลเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่ จ.นครพนม เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การทำให้ปลอดภัยเชื้อ การป้องกันโรค การขนส่งสินค้าที่จำเป็น กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาล และยานพาหนะของทางราชการ หรือได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หรือที่ผู้ที่ผู้ว่าฯ มอบหมายเป็นกรณีไป

สำหรับบุคคลที่จะได้รับการยกเว้นต้องปฏิบัติตามมาตรการนี้ กรณีเดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่ จ.นครพนม ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ หรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมายในท้องที่ที่มีด่านตรวจคัดกรองตั้งอยู่ ส่วนกรณีจะเดินทางออกจากพื้นที่ จ.นครพนม ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอและผู้ที่ได้รับมอบหมายเช่นกัน

กรณีเป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของส่วนราชการ หรือหน่วยงานรัฐ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐต้นสังกัดออกหนังสือรับรองการปฏิบัติงานที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้า-ออก พร้อมบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวพนักงาน แสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ เพื่อพิจารณาเป็นรายไป ส่วนบุคคลที่ได้รับการยกเว้น ต้องอยู่ภายใต้บังคับของข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว
หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 มีอัตราโทษจำคุกไม่เป็น 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คำสั่งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.2563 ไป จนถึงวันที่ 30 เม.ย. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน