รวบหนุ่มหื่น ฉัดสาววิ่งออกกำลังกาย ปิดปากลากเข้าป่า พาไปข่มขืน พลเมืองดีมาเห็นเหตุการณ์ ตะโกนขู่ เข้าช่วยทัน ก่อนพาสาวเข้าแจ้งความ
เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ สภ.เมืองจันทบุรี พ.ต.อ.พงศ์รพี รพีถวิลวรรณ ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธัญภัทร บุญสุข รอง ผกก.สืบสวน นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัว นายคชาวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีก่อเหตุ กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย
หลังจากผู้ต้องหา ก่อเหตุดักฉุดหญิงสาว ที่มาวิ่งออกกำลังกาย บริเวณถนนเลียบคลองคลองภักดีรำไพ ลากเข้าป่าพยายามข่มขืน โชคดีพลเมืองดีมาเห็นเหตุการณ์ตะโกนขู่ คนร้ายตกใจปล่อยเหยื่อดิ้นหลุดวิ่งหนีออกมาได้ทัน
พ.ต.อ.พงศ์รพี กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีพลเมืองดี พาผู้เสียหาย น.ส.หลิว (นามสมมติ) เข้ามาแจ้งความ ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า สภ.เมืองจันทบุรี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.หลิว วิ่งออกกำลังกาย บริเวณถนนเลียบคลองภักดีรำไพ ด้านหลังโรงเรียนลาซาล ต.จันทนิมิต อ.เมือง
มีคนร้ายเป็นชายหนุ่ม โผล่ออกมาจากข้างทาง เข้ามาล็อกตัวลากเข้าไปในป่า พยายามที่จะข่มขืน แม้เหยื่อพยายามยื่นข้อเสนอ แต่ไม่เป็นผล คนร้ายได้ใช้มือปิดปาก เพื่อไม่ให้ส่งเสียง
ต่อมาได้มีพลเมืองดีเป็น หนุ่มสาว ที่มาวิ่งออกกำลังกาย มาพบเจอเหตุการณ์ ได้ตะโกนส่งเสียงไล่ แต่คนร้ายยังไม่ปล่อยเหยื่อ ทำให้พลเมืองดี ตะโกนไปว่า ตำรวจมา ส่งผลคนร้ายตกใจปล่อยเหยื่อ แล้ววิ่งหายเข้าไปในป่า แต่จอดรถจยย. ซูซูกิ คริสตัล สีดำ ทะเบียน จ-4512 จันทบุรี ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ
พ.ต.อ.พงศ์รพี กล่าวต่อว่า หลังได้รับรายงาน ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน ออกติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ โดยแกะรอยจากรถจยย. ของคนร้าย ที่จอดทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ ล่าสุดเมื่อเวลา 7.40 น. เช้าที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนได้นำหมายศาล จ.จันทบุรี ที่ 103/2563 ลงวันที่ 17 เม.ย.63 ไปติดตามจับตัว นายคชาวุฒิ ผู้ต้องหาได้ หลังสืบทราบว่าทำงานอยู่ ที่สวนผลไม้ ม.8 ต.คลองนารายณ์ อ.เมืองจันทบุรี ก่อนคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมยังโรงพัก
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายคชาวุฒิ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย บุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
