จมน้ำ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 เม.ย. ร.ต.ท.ภาคภูมิ วัฒนศิริ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบศพชายลอยน้ำอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่หมู่ 8 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา
ที่เกิดเหตุกลางแม่น้ำเจ้าพระยา พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สวมใส่เสื้อคอกลมสีดำ ด้านหน้าสกรีน ตัวหนังสือ fb ไม่สวมใส่กางเกง อยู่ในสภาพขึ้นอืด เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจได้นำเรือยนต์ออกจากฝั่งนำร่างผู้เสียชีวิต เข้าฝั่งทางด้านท่าน้ำวัดพุทไธศวรรย์
ด้าน ร.ต.ท.ภาคภูมิ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 40-50 ปี ลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าอาจจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน จึงให้เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยานำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี และจะติดตามหาญาติมารับศพกลับไป
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นเด็กเพศหญิง 1 รายอายุประมาณ 5 ปี ลอยอยู่กลางแม่น้ำป่าสัก และห่างจากจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิตชาย เพียงไม่ถึง 2 กิโลเมตร และเวลาห่างกันไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่หาข่าว เพื่อติดตามหาญาติ และผู้ตายทั้ง 2 มีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกันหรือไม่
ต่อมา ร.ต.อ.สมชาย ทองนพ รองสว.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่หาข่าวเดินทางไปที่วัดธรรมนิยม ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียงกับที่พบผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเด็กหญิง พบกับ น.ส.บุษยา พรหมมากร อายุ 43 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับริมแม่น้ำป่าสัก เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันอาทิตย์ตนนอนอยู่บนบ้านแล้วได้ยินเสียงผู้ชายคุยกับเด็กผู้หญิงอยู่ข้างบ้าน เสียงดัง พอจับใจความได้ว่าเหมือนเด็กผู้หญิงพูดว่า พ่ออย่าทิ้งหนู และร้องไห้อยู่ตลอด และเสียงพูดชายพูดกลับมาว่า เงียบ ไม่ต้องร้อง แต่เด็กก็ยังร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกระโดดน้ำลงไป เด็กผู้หญิงก็ร้องไห้แล้วพูดว่า พ่ออย่าทิ้งหนูนะ อย่ากระโดดลงไป จากนั้นเสียงก็เงียบหายไปเลย ตนจึงคิดว่าทั้ง 2 คนอาจจะเดินออกไปแล้ว ก็ไม่ได้สนใจอะไรจนมาทราบข่าวว่าพบศพ 2 ศพจมน้ำเสียชีวิต ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายนั้นได้นำเสื้อผ้าใส่อยู่ในถุงดำวางไว้อยู่ภายในกำแพงวัด เจ้าหน้าที่จึงสอบถามคนแถวนั้นจึงทราบว่าทั้ง 2 เป็นพ่อลูกกัน ได้มานอนอยู่ที่วัดก่อนที่จะหายตัวไป 2 วันแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำอาชีพอะไร เคยถามว่ามานอนทำไม คนเป็นพ่อบอกว่ากำลังหางานทำอยู่ไม่มีงานทำ
จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าสตางค์พบ บัตรประชาชนถ่ายเอกสาร ระบุชื่อ นายสมศรี แทนโหมก อายุ 40 ปี และยังพบใบแจ้งเกิดถ่ายเอกสาร ระบุชื่อ ด.ญ.แอนนา แทนโหมก อายุ 5 ขวบ ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 15 ต.บรบือ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุนั้น อาจเป็นปัญหาทางครอบครัว ซึ่งจะติดต่อโทรศัพท์หาแม่ของเด็กหญิงอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
