พี่สาว-พี่เขย หนุ่มไลฟ์สด ผูกคอตาย ไม่เชื่อน้องเครียดเรื่องเงิน แฉปมสลด ถูกคนใกล้ชิดกดดัน-แชทข่มขู่ จนถึงขั้นคิดสั้น เผยนาทีรุดช่วยน้องแต่ไม่ทัน

จากกรณี นายเอกพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำงานเป็นคนขับรถส่งเบียร์ของบริษัทแห่งหนึ่งที่ จ.ปทุมธานี ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิต ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งที่ ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ครอบครัวและญาติ ๆ ร่วมงานศพหนุ่มไลฟ์สด ผูกคอตาย ที่บ้านพักในพื้นที่จ.ปทุมธานี

ครอบครัวและญาติ ๆ ร่วมงานศพหนุ่มไลฟ์สด ผูกคอตาย ที่บ้านพักในพื้นที่จ.ปทุมธานี

ล่าสุด น.ส.อนงค์นาถ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พี่สาวของ นายเอกพงษ์ ผู้ตาย ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ปทุมธานี แต่พักอยู่ห่างกันประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดเผยว่า ตนไม่เชื่อว่านายเอกพงษ์จะคิดสั้นเพราะเรื่องเงินไม่พอใช้ เพราะจากที่แชทคุยกันผ่านทางไลน์กับนายเอกพงษ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา นายเอกพงษ์ไม่ได้บอกว่ามีปัญหาเรื่องเงินเลย

“แต่กลับระบายเรื่องญาติที่เป็นคนพาน้องชายไปทำงานที่บริษัทเบียร์ดังกล่าวด้วย ต่อว่ากดดันเรื่องที่น้องทำงานให้ไม่ถูกใจ จนถึงแชทมาข่มขู่ และทำให้น้องเกิดความเครียดมากกว่า ซึ่งดิฉันก็พยายามให้กำลังใจและปลอบใจ ทั้งยังบอกกับน้องว่าถ้าทำแล้วไม่สบายใจก็จะพามาทำงานกับสามีของดิฉัน ซึ่งทำงานอยู่บริษัทส่งของ และวันที่น้องไลฟ์สดระบายความในใจและบอกว่าจะผูกคอตายนั้น ดิฉันกับสามีก็ช่วยกันพูดปลอบใจน้องตลอด และกำลังให้สามีขับรถออกไปรับที่พักของน้อง แต่ก็ไม่ทันไปถึงน้องก็เสียชีวิตแล้ว” น.ส.อนงค์นาถ กล่าว

น.ส.อนงค์นาถ (ขอสงวนนามสกุล) พี่สาวของผู้ตาย

น.ส.อนงค์นาถ (ขอสงวนนามสกุล) พี่สาวของผู้ตาย

น.ส.อนงค์นาถ กล่าวต่อว่า จึงอยากฝากถึงคนที่พูดกดดันและแชทมาข่มขู่นายเอกพงษ์ว่ามีปัญหาอะไรถึงต้องกดดันน้องขนาดนั้น จนทำให้น้องถึงขั้นต้องคิดสั้น บางครั้งแม้จะไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายแต่คำพูดบางคำพูดก็ทำร้ายจิตใจ จนอาจทำให้ใครบางคนถึงขั้นต้องจบชีวิตตัวเอง ก็อยากให้เขามาขอโทษครอบครัวด้วย

ด้าน นายมาโนช (ขอสงวนนามสกุล) พี่เขย กล่าวถึงนาทีที่พยายามขับรถไปช่วยนายเอกพงษ์ ว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงใกล้จะถึงเวลาเคอร์ฟิว ซึ่งก็ต้องผ่านด้านตรวจโควิด-19 และด่านเคอร์ฟิวหลายจุด แต่ก็อธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังถึงความจำเป็นและเหตุฉุกเฉินว่ากำลังจะไปช่วยน้องที่จะผูกคอตาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้ผ่านและอำนวยความสะดวกให้ แต่ก็ไปช่วยน้องไม่ทันแล้ว

พี่สาว และพี่เขยของผู้ตายให้สัมภาษณ์กับสื่อระหว่างเดินมาร่วมงานศพที่จ.บุรีรัมย์

พี่สาว และพี่เขยของผู้ตายให้สัมภาษณ์กับสื่อระหว่างเดินมาร่วมงานศพที่จ.บุรีรัมย์

นายมาโนช กล่าวต่อว่า พอไปถึงที่เกิดเหตุนายเอกพงษ์ก็สิ้นใจแล้ว แม้จะพยายามช่วยกันปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ซึ่งตนรู้สึกเสียใจ เพราะที่ผ่านมานายเอกพงษ์มีปัญหาอะไรก็จะปรึกษา และตนก็จะช่วยเหลือตลอด แต่ครั้งนี้นายเอกพงษ์คงจะถูกกดดันหนัก จนทำให้รับไม่ไหวและไม่รู้จะหาทางออกยังไง เพราะคนที่กดดันก็เป็นญาติพี่น้องที่พาไปทำงานด้วย

นายมาโนช กล่าวด้วยว่า อยากฝากว่า หากเป็นไปได้ก็ให้มากราบขอขมาศพนายเอกพงษ์ และครอบครัวด้วย ที่เป็นสาเหตุทำให้นายเอกพงษ์ต้องคิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมางานศพเลย ซึ่งทางญาติจะฌาปนกิจศพในวันที่ 27 เม.ย.นี้ ที่วัดในหมู่บ้านในพื้นที่จ.บุรีรัมย์

_______________________________________________________

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน