ออกหมายจับส.อ.จ้างวานมือปืน ยิงเอ็ม16ถล่มเพื่อนบ้าน ฉุนเปิดเพลงเสียงดัง เผยผู้จ้างวานเป็นทหารสังกัด กอ.รมน.ส่วนกลาง ให้เพื่อนเป็นมือปืนยิงเพื่อนบ้าน

กรณีคนร้าย ใช้อาวุธปืน M-16 กราดยิงออกมาจากในสวนยางพารา กระสุนถูก นายสุธน แซ่ฮ่อง อายุ 44 ปี ชาว ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง อาชีพรับจ้าง เข้าที่ท้องซ้าย ศีรษะ ขาซ้าย กลางหลัง ไหล่ซ้าย ทะลุหน้าอก รวม 6 นัด เสียชีวิต ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 4 ปลอก เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง เมื่อกลางดึกวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา สาเหตุเชื่อว่าเกิดจากการที่ผู้ตายชอบเปิดเพลง และร้องคาราโอเกะเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง มาเป็นเวลานานนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ก็เร่งสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เปิดเผยอะไรมากนัก เนื่องจากคนร้ายระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งล่าสุดเมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จู่โจมตรวจค้นบ้านเป้าหมายอีกประมาณ 4-5 จุด

และสามารถออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ 2 คน คือ ส.อ.นพณัฐ (บู๊) พงษ์ศิริ อายุ 33 ปี ทหารสังกัด กอ.รมน.ส่วนกลาง โดยมีบ้านอยูใกล้ที่เกิดเหตุ โดยถูกออกหมายจับในฐานะผู้ใช้จ้างวาน คนที่ 2 คือ นายอุดมศักดิ์ (บอล) ผักคิ่น อายุ 33 ปี ชาวต.น้ำผุด อ.เมือง เป็นเพื่อนทหารนายดังกล่าว และพักอาศัยอยู่ไม่ไกลที่เกิดเหตุเช่นเดียวกัน เป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้ปืนยิงผู้ตาย

ซึ่งหลังก่อเหตุ นายอุดมศักดิ์ ก็ออกไปอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง มาระยะหนึ่ง และกลับมาอยู่ทั้งในพื้นที่และไปกลับ โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ ขณะเชิญตัวมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองตรัง ส่วน ส.อ.นพณัฐนั้นอยู่ระหว่างการประสานกับฝ่ายทหารให้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหลังเกิดเหตุตกเป็นผู้ต้องสงสัย ทางต้นสังกัดก็ดึงตัวไปอยู่ในค่ายทหารที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

แต่ในส่วนของอาวุธปืนสงครามของกลางยังไม่ได้ สำหรับหลักฐานสำคัญในคดีนี้คือหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะหลักฐานการติดต่อกันของคนร้าย ทั้งเรื่องการติดต่อสื่อสารกัน ทั้งภาคพื้นดิน และทางอากาศ ซึ่งศาลเชื่อจึงออกหมายจับ

พล.ต.ต.ถาวร กล่าวต่อว่า ในส่วนอาวุธปืนเอ็ม16 ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น ทางตำรวจไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเป็นอาวุธปืนสงครามที่ใช้ในราชการแต่อย่างใด เพราะไม่มีการเบิกมาใช้ เพียงแต่ในการค้นบ้านของส.อ.นพณัฐ ก็ได้เครื่องกระสุนปืนมาจำนวนหนึ่ง และดำเนินคดีในข้อหามีเครื่องกระสุนปืนที่ทางราชการไม่สามารถอนุญาตได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนสนิทกัน และเรียกตัวมาสอบทั้งคู่ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ แต่ตอนนั้นไม่มีหลักฐาน

โดยพฤติการณ์พบว่า ผู้จ้างวานไม่ได้เป็นผู้ลงมือปฏิบัติ แต่ได้จ้างวานให้ผู้อื่นมาเป็นคนกระทำ ส่วนรายละเอียดไม่สามารถให้ได้มากนัก เพราะว่าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และก็เป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป

ส่วนปลอกกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุ กับเครื่องกระสุนปืนที่ยึดได้จากการค้นบ้าน ส.อ.นพณัฐนั้น ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชุดเดียวกันหรือไม่ แต่บอกได้เพียงว่า เป็นขนาดเดียวกันเท่านั้น เพราะผลการตรวจยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ หรือพิสูจน์หลักฐานอย่างเป็นทางการยังไม่ออกมา รวมทั้งรอผลการตรวจสอบกับกรมสรรพาวุธ

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากหลักฐานที่ได้มา แม้จะไม่ได้อาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุมา ก็มีน้ำหนักเพียงพอที่จะส่งอัยการและฟ้องศาลได้แน่นอน เพราะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้

ทั้งนี้ ในส่วนของ ส.อ.นพณัฐนั้นประสานไปยังทางทหารแล้ว ว่าจะนำตัวมามอบให้ในวันนี้ แต่หากไม่นำตัวมา หากทางตำรวจพบเจอ ก็สามารถจับกุมได้ทันที และยืนยันว่าในเบื้องต้นนี้หลักฐานเชื่อมโยงเพียง 2 คน แต่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม หากมีเพิ่มก็จะขออำนาจศาลออกหมายจับ เพื่อดำเนินการจับกุมต่อไป

ภาพบางส่วนจาก อมรินทร์ทีวี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน