ยังไม่ให้ขาย! ลำปางสั่งขยายเวลาห้ามขายเหล้า-เปิดร้านแอลกอฮอล์ต่อไม่มีกำหนด

วันที่ 28 เม.ย. ที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.ลำปาง ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดลำปาง และประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปาง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปาง ครั้งที่ 11/2563

โดยมี นายก่อพงษ์ โกมลรัตน์ รองผวจ.ลำปาง พร้อมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปาง ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ และพิจารณาเสริมมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ลำปาง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปาง ได้พิจารณาตามมติที่ได้มีประกาศจังหวัดลำปาง เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 30 มี.ค. 2563 สั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เม.ย. 2563 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และคำสั่งจังหวัดลำปางที่ 1818/2563 ลงวันที่ 14 เม.ย. 2563 เรื่อง สั่งปิดร้านค้า สถานประกอบการ พื้นที่บริเวณขาย หรือแสดงสินค้าประเภทสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท โดยขยายระยะเวลาปิดสถานบริการ สถานที่ต่างๆ ตามประกาศเดิม โดยขยายจากวันที่ 30 เม.ย. 2563 ไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ลำปางห้ามขายเหล้า

จากนั้นผวจ.ลำปาง ได้เห็นเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปางจึงมีคำสั่งดังนี้

ให้ปิดร้านค้าหรือสถานประกอบการขายสุราประเภทที่ 1และประเภทที่ 2 ที่ได้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 หรือปิดพื้นที่หรือบริเวณแสดงสินค้า ประเภทสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภททั้งค้าปลีกและค้าส่งตั้งแต่วันที่ 16 -30 เม.ย.2563 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยสามารถจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นได้ โดยได้ขยายระยะเวลาปิดสถานบริการ สถานที่ต่างๆ ตามประกาศเดิม โดยขยายจากวันที่ 30 เม.ย. 2563 ไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ลำปางห้ามขายเหล้า

ผู้ฝ่าผืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตาม มาตรา18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน