มึนทั้งหมู่บ้าน! ‘ตายแล้วฟื้น’ หายตัว 8 ปี ผู้ใหญ่บ้านแจ้งตายแล้ว โกงเงินฌาปนกิจศพลูกบ้านญาติ-ชาวบ้านเป็นงง ผู้ใหญ่โร่แก้ไขให้

นายต่วน ดีชัยรัมย์ อายุ 59 ปี

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ว่าผู้ใหญ่บ้านแจ้งตายลูกบ้านตัวเอง แทนญาติ แล้วพยายามเบิกเงินฌาปนกิจศพร่วม 80,000 บาท อยากให้มาช่วยตรวจสอบ เพราะร้องเรียนมานานร่วม 5 เดือนแล้ว แต่เรื่องเงียบ เกรงว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน

จากการตรวจสอบที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ตูมใหญ่ พบนายต่วน ดีชัยรัมย์ อายุ 59 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลานตัวเองชื่อ นายสมเกียรติ บริสุทธิ์ อายุ 51 ปี พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ออกจากบ้านไปทำงานอยู่กับญาติที่ จ.ระยอง เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยกลับบ้าน ญาติทางบุรีรัมย์คิดเสมอว่าอยู่ญาติกับที่ จ.ระยอง

กระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา มีคณะกรรมชมรมฌาปนกิจศพผู้สูงอายุตำบลตูมใหญ่ มาเก็บเงินค่าศพๆละ 50 บาท เมื่ออ่านดูใบเสร็จรับเงินพบว่า ผู้ตายคือนายสมเกียรติ ซึ่งเป็นหลานตัวเองที่ออกจากบ้านไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว

นายสมศักดิ์ พรภิญโญยิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน

ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ผู้ที่แจ้งว่าหลานตัวเองเสียชีวิตคือ นายสมศักดิ์ พรภิญโญยิ่ง ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งที่ครอบครัวและญาติไม่รู้เรื่องมาก่อนว่า หลานตัวเองเสียชีวิตตอนไหน
และได้รับคำตอบจากผู้ใหญ่บ้านในเวลาต่อมาว่า มีคนข้างบ้านผู้ใหญ่บ้านแจ้งมาว่า นายสมเกียรติเสียชีวิตแล้ว จึงเดินทางไปอำเภอเพื่อแจ้งตาย แล้วคัดออกจากทะเบียนบ้านทันที ยอมรับว่า ไม่ได้ไปสอบถามญาติก่อน

ทางญาติไปร้องที่ อ.คูเมือง จนกระทั่งผู้ใหญ่บ้านกลับไปแก้เอกสารใหม่ ให้ผู้ตายฟื้นกลับมามาชีวิต (ในเอกสาร)

นายต่วน เล่าด้วยว่า การเสียชีวิตของคนในตำบลตูมใหญ่ ที่เข้าเป็นสมาชิกชมรมฯ จะได้รับเงินประมาณ 80,000 บาทต่อศพ แต่ญาติยังไม่ได้รับเงิน ถึงตอนนี้ผ่านมาร่วม 5 เดือนเรื่องก็เงียบหายไป

สอบถาม นายสมศักดิ์ พรภิญโญยิ่ง กล่าวว่า ตอนนั้นทราบข่าวจากญาติว่านายสมศักดิ์เสียชีวิตไปแล้ว เพราะหายสาบสูญไป ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านยอมรับว่าสะเพร่าเดินทางไปแจ้งตายด้วยตัวเอง โดยไม่ได้สอบถามใคร ส่วนการนำชื่อนายสมเกียรติ เข้ามาเป็นสมาชิกชมรมฯ เป็นความคิดของภรรยาเอง

ด้านนางลำไย พรภิญโญยิ่ง อายุ 47 ปี ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ตอนนั้นนายสมเกียรติถือว่าไม่มีญาติ เพราะพ่อแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว และนายสมเกียรติมาคุยกับตนว่า
อยากให้นำชื่อเข้าเป็นสมาชิกชมรมฯด้วย “ถ้าผมตายไปแล้วจะได้มีเงินทำศพให้ผม” ตนจึงทำให้ และเป็นผู้จ่ายเงินค่าศพๆละ 50 บาท หากสมาชิกเสียชีวิตมาโดยตลอด 10 ปี

ยอมรับในสัญญาระบุให้ตนเป็นผู้รับผลประโยชน์ หากนายสมเกียรติเสียชีวิต แต่สุดท้ายตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงิน 80,000 บาท เป็นค่าปลงศพจากชมรมฯแต่อย่างใด เพราะได้แก้ไขในเอกสารไปแล้วว่า นายสมเกียรติยังมีชีวิตอยู่ในทะเบียนบ้าน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน