หนุ่มวัย 24 น้อยใจถูกเมียบอกเลิก-โดนไล่กลับบ้าน ผูกคอลาโลกคาบ้าน เผยอยู่กอนด้วยกันมา 1 ปี ระแวงเมียมีแฟนใหม่ ก่อนทะเลาะกันเมียบอกเลิก สุดท้ายพบเป็นศพ
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ร.ต.ท.เกรียงไกล แสวงศรี รองสารวัตร สอบสวนสภ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งว่า มีคนผูกคอเสียชีวิตที่หอพักแห่งหนึ่ง ในต.หนองนาคำ เมื่อกลางดึกวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี, เจ้าหน้าที่เขตงานหนองนาคำ มูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายของชำ ส่วนด้านหลังเปิดเป็นห้องพัก พบร่างของผู้เสียชีวิตคือ นายนราธร เงาศรี อายุ 24 ปี ชาวต.หนอผ่า อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นอนหงายอยู่หน้าบันไดชั้นล่างภายในบ้าน สภาพศพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงินขายาว ที่ราวบันไดบนชั้น 2 มีสายไฟมัดติดอยู่
จากการสอบสวน น.ส.กมลชนก อายุ 43 ปี เจ้าของบ้านผู้มาพบศพคนแรก ให้การขณะที่อยู่ในอาการเสียใจว่า ขณะตนนอนอยู่ในห้องนอนบนกับลูก ได้ยินเสียงเหมือนอะไรตกหล่นลงมาเสียงดัง จึงออกมาดูพบร่างของนายนราธรสามีอายุรุ่นลูก ที่อยู่กินด้วยกันผูกคอเสียชีวิต
น.ส.กมลชนก กล่าวทั้งน้ำตาว่า บ้านหลังนี้เป็นร้านขายของชำและเปิดเป็นห้องพักให้คนเช่าอาศัยอยู่ด้วย ตนอยู่กินกับผู้ตายเป็นสามีภรรยากันมาประมาณ 1 ปี สามีทำงานเป็น ช่างอลูมิเนียมอยู่แถวหน้าปากซอยใกล้บ้าน ต่อมาตนทราบว่าสามีไปเบิกเงินค่าแรงล่วงหน้ามา 2,000 บาท จึงถามสามี ว่าเอาเงินไปใช้ทำอะไร แต่เขาไม่ยอมตอบ แถมยังไม่เอาเงินที่เบิกค่าแรงมาให้กับตน ตนจึงโทรศัพท์ไปหาป้าของเขา ซึ่งอาจทำให้ทำให้เขาอาจจะถูกป้าต่อว่าด้วย
ประกอบกับสามีก็ระแวงว่าตนจะมีชายอื่นด้วย จึงทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันและด้วยความโมโหตนจึงบอกเลิกกับสามี พร้อมกับไล่ให้เขากลับไปอยู่ที่บ้าน อ.หนองหาน แล้วตนก็ขึ้นไปนอนบนบ้านกับลูก จนกระทั่งได้ยินเสียงเหมือนสิ่งของร่วงตกลงมา จึงลงมาดูพบว่าสามีผูกคอตายร่างร่วงตกลงมา โดยตนพยายามจะปั๊มหัวใจหรือผายปอดสามี แต่ตนก็ทำไม่เป็น แล้วในตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกด้วย พอรู้ว่าสามีหมดหายใจแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ มาตรวจสอบ
ร.ต.ท.เกรียงไกล แสวงศรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายอยู่กินกับเจ้าของบ้าน เป็นสามีภรรยากัน ผู้ตายถูกภรรยาบอกขอเลิก แล้วไล่ให้กลับไปอยู่บ้านตนเอง จึงเกิดความน้อยใจ และคิดว่าภรรยามีผู้ชายคนใหม่ จึงไปนำมีดมาตัดสายไฟพัดลมที่อยู่ในบ้าน ใช้ผูกคอตาย ก่อนร่างจะร่วงตกลงมา
บริเวณที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ หรือตามร่างกายของผู้ตายไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยให้มูลนิธิฯ นำศพผู้เสียชีวิตไปไว้ ที่โรงพยาบาลศูนย์ เพื่อให้ญาติมาติดต่อรับศพนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
