ทหารปะทะเดือด แก๊งค้ายาบ้า ยิงสนั่นริมโขง ยึดบิ๊กล็อต กว่า 17 ล้าน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 พ.ค. ที่ กองบัญชาการส่วนหน้ากองกำลังสุรนารี อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี นายสฤษด์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พล.ต.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และหน่วยงานด้านความมั่นคงของจังหวัดอุบลราชธานี
ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดจากต่างประเทศ ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ก่อนทิ้งยาบ้า 4 กระสอบ ขนาดบรรจุกว่า 804,000 เม็ด และยาไอซ์น้ำหนัก 2 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 17 ล้านบาท หลบหนีไปได้
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรนารี รับแจ้งจะมีขบวนการลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเข้าไปยังส่วนกลางของประเทศไทย โดยนัดส่งมอบยาเสพติดทั้งหมดที่บริเวณท่าขึ้นทรายร้างแม่น้ำโขง ตั้งอยู่บ้านนาสะอาด ต.นาแวง อ.เขมราฐ จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่ทำการจับกุม
กระทั่งถึงเวลาพบกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง นั่งเรือหางยาวข้ามแม่น้ำโขงจากประเทศลาว นำกระสอบขนาดใหญ่ขึ้นจากเรือมาใส่ลงในรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด ตอนครึ่ง สีเทาหมายเลขทะเบียน 2 ฒข 1158 กทม. ซึ่งเป็นรถใช้ลำเลียงยาเสพติดที่คนร้ายนำมาจอดซุ่มไว้ล่วงหน้า
ระหว่างนั้น คนร้ายเกิดไหวตัวรู้ว่าถูกเจ้าหน้าที่ซุ่มอยู่ กลุ่มคนร้ายที่มีชุดคุ้มกันมาด้วยได้ใช้อาวุธสงคราม AK 47 (อาก้า) ยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นในจุดแรกที่บริเวณท่าทรายร้าง
ก่อนคนร้ายจะถอยร่นเข้าไปแนวป่าริมแม่น้ำโขง โดยใช้เวลายิงต่อสู้กันนานประมาณ 10 นาที ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยความมืดหลบหนีข้ามกลับเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ต่อมาในตอนเช้าวันนี้ ทราบว่า มีคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 คน และถูกทางการของประเทศเพื่อนบ้านจับกุมตัวเอาไว้ได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยไม่ได้รับบาดเจ็บ และจะได้ประสานขอรับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีหลังรักษาจนหายดีแล้วด้วย
ขณะที่เมื่อเข้าเคลียร์พื้นที่ในรถคันดังกล่าวพบยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบขนาดใหญ่จำนวน 4 กระสอบ จำนวน 402 มัด คิดเป็นยาบ้าจำนวนกว่า 804,000 เม็ด และยังพบยาไอซ์อีก 2 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการสกัดจับยาบ้าและยาไอซ์ล็อตใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่างในปีนี้
เพราะขบวนการค้ายาเสพติดต่างชาติ กำลังประสบปัญหาถูกเจ้าหน้าที่ภาคอีสานตอนบนสกัดกั้นอย่างหนัก ทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงยาเสพติดมาทางอีสานตอนล่างมากขึ้นในช่วงนี้
