ญาติยกขันธ์5ขอขมาเจ้าปู่ดอนงัว! เชื่อเจออาถรรพ์โดนไฟคลอกดับ ขุดร่องน้ำบอกแต่เจ้าที่ผีนา
จากกรณี นายเฉลิม อายุ 67 ปี ถูกไฟคลอกนอนเสียชีวิตอยู่ข้างคูสระน้ำโรงสีเก่าติดกับที่นาของตัวเองในพื้นที่ ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ขณะช่วยชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลนาข่าดับไฟที่กำลังลุกลามเข้าไหม้อาคารเรือนพักด้านหลัง นาข่าบุรีรีสอร์ต เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 12 พ.ค. ที่ป่าช้า สำนักสงฆ์เทพนิมิต ครอบครัวพร้อมเพื่อนบ้านนำศพ นายเฉลิม เข้าบรรจุไว้ในเบ้าคอนกรีตตามความเชื่อว่า การตายโหงและเสียชีวิตจากความร้อนของไฟต้องทำพิธีนำศพเข้าเบ้าช่วงเช้าก่อนเพล ตามความเชื่อของชาวบ้านและเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมานับร้อยปี นาน 3 ปี จึงจะนำร่างมาประกอบพิธีทางศาสนา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย ถ้าไม่ทำตามประเพณีแล้ว การตายจากไฟก็จะลุกลามไปถึงคนในหมู่บ้าน จะทำให้เสียชีวิตติดต่อกันไปไม่มีที่สิ้นสุด
หลังเสร็จพิธี นายถาวร ชำนาญพรม อายุ 57 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน พร้อมด้วยญาติผู้ตายพากันไปดูจุดที่เกิดเหตุ โดยนายถาวร เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนขยันทำมาหากิน และเป็นที่รักใคร่ของคนในหมู่บ้าน เป็นคนร่าเริง นิสัยดีจิตอาสา ชอบช่วยเหลืองานในหมู่บ้านมาตลอด โดยเฉพาะงานศพ เนื่องจากผู้ตายเป็นช่างทำปราสาทผึ้งในงานทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้แก่ผู้ล่วงลับภายในหมู่บ้านด้วย ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาสูบน้ำเข้าแปลงต้นกล้าในที่นา เพื่อเตรียมทำนาของตัวเอง
ต่อมาที่บ้านผู้ตาย นางจันดี อายุ 65 ปี ภรรยา เล่าทั้งน้ำตาว่า สามีทำงานเป็น รปภ.ศูนย์จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งใน ต.นาข่า อยู่กินกันมา 40 กว่าปี มีลูกชายหญิงรวม 3 คน ทุกคนมีครอบครัวไปแล้ว และรู้สึกเสียใจมากที่ต้องสูญเสียผู้นำครอบครัว เพราะสามีเป็นคนขยันทำงาน เลิกงานมาช่วงเช้ากินข้าวเสร็จก็ลงไปที่นา หรือหากมีคนว่าจ้างไปทำงานอะไรก็ไม่เคยเกี่ยง และไม่คิดว่าความขยันและเป็นคนจิตอาสา จะมาทำให้สามีมาจบชีวิตแบบไม่ได้สั่งลากัน
“ส่วนลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุ สามีมีท่าทีเปลี่ยนไปและไม่พูดไม่จา จากเคยเป็นคนร่าเริงชอบพูดหยอกล้อภรรยาและเพื่อนบ้านอยู่ประจำสม่ำเสมอ และฝากเป็นอุทาหรณ์ ถึงพี่น้องชาวนาทุกคนว่าอย่าไปจุดไฟเผาซังข้าว หรือหญ้าในที่นา ให้ไถฝังกลบจะปลอดภัยกว่า เพราะช่วงนี้อากาศร้อนอบอ้าว ประกอบกับมีลมพัดกรรโชคแรง และอีกสาเหตุอาจจะเกิดการเสียดสีของวัตถุในช่วงหน้าแล้ง ทำให้เกิดความร้อนสะสมจนเกิดไฟลุกขึ้นจนทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต เหมือนกับสามี ”
ระหว่างญาติๆนั่งพูดคุยกันอยู่หน้าบ้านผู้ตายนั้น ปรากฎว่า หลานชายผู้ตายมีอาการเหมือนถูกวิญาณเข้าสิง แสดงท่าทางโกรธมากพร้อมกับพูดขึ้นว่า ” เคยเตือนแล้วแต่ไม่เชื่อฟัง ทางที่ใช้ให้ช้างม้าวัวควาย รวมทั้งบริวารสัญจรลงไปอาบน้ำในหนอง รวมทั้งเจ้าปู่เองก็ใช้สัญจรมาอาบน้ำทุกวัน ”
ทำให้ทุกคนพากันเชื่อว่า ” วิญญาณเจ้าปู่ราศี หรือเจ้าปู่ดอนงัว ” ซึ่งอยู่ดูแลปกปักรักษาลูกหลานที่บ้านนาข่ามาเป็นพันปีเข้าสิงร่าง และยังเชื่ออีกว่า ผู้ตายคงไปขุดร่องน้ำจากหนองดอนงัวเข้ามาที่นาโดยไม่ได้บอกกล่าว เจ้าปู่ บอกแต่เพียงเจ้าที่ผีนาของตัวเองเท่านั้น ทำให้เจ้าปู่ไม่พอใจ จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จากนั้นญาติๆนำขันธ์ 5 ดอกไม้ธูปเทียนมาขอขมาที่ผู้ตายล่วงเกิน ก่อนวิญญาณเจ้าปู่จะออกจากร่างไป ท่ามกลางความมึนงงของหลานชายที่ฟื้นขึ้นมาด้วยอาการจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
