รวบอดีตผู้รับเหมาขโมยรถทำมาแล้วกว่า 31 คัน ขายฝั่งลาวพร้อม ศปจร.ภ.4 แถลงข่าวตรวจยึดรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม 16 คัน มูลค่า 7.5 ล้านบาท เตือนชาวบ้านถูกหลอกซื้อรถยนต์ทางอินเตอร์เน็ต

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 มิ.ย. พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปจร.ภ.4 พ.ต.อ.นพเกล้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการของ ศปจร.ภ.4 แถลงข่าวการจับกุม นายวิทยา สุริฉาย อายุ 38 ปี อดีตผู้รับเหมาอยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ที่ 9 ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีหมายจับค้างเก่า 1 หมาย ของสภ.สารภี จ.เชียงใหม่ หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ที่ 67/2560 เลขคดีที่ 17/2560

มีพฤติกรรมในการก่อเหตุเข้าไปทำทีติดต่อขอซื้อรถยนต์แล้วทดลองขับพอเจ้าของร้านเผลอ จึงขับหลบหนีไป และขโมยโดยใช้กุญแจผีและเครื่องตัดสัญญาณกันขโมย ส่วนใหญ่ก่อเหตุในพื้นที่ จ.ชลบุรี ระยอง ถูกจับกุมเมื่อ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ร้อยเอ็ด ฝากขังศาลจังหวัดร้อยเอ็ดผัดแรก จำนวน 12 วัน ควบคุมที่เรือนจำร้อยเอ็ด ซึ่งมีของกลางรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 6287 กรุงเทพมหานคร รถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรตัน สีขาว หมายเลขทะเบียน ผว1803 ชลบุรี และรถกระบะ ยี่ห้อทาทา หมายเลขทะเบียน บท7136 สมุทรปราการ เป็นรถโจรกรรมโดยนายวิทยา เพื่อส่งข้ามไปยังสปป.ลาว โดยจะนำรถยนต์ที่โจรกรรมมาไปข้ามฟากที่บริเวณแก่งกระเบา อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร

พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 (ศปจร.ภ.4) ได้จับกุมนายวิทยา สุริฉาย ได้ก่อคดีลักทรัพย์โดยใช้กลอุบายทำทีไปซื้อรถตามเต็นท์ต่างๆ เมื่อทดลองรถก็เชิดรถหนีไปเลย ซึ่งถูกจับกุมตัวเมื่อ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดได้รถกระบะมา 3 คัน เมื่อได้รถมาแล้วก็จะลักลอบขายรถให้กับขบวนการลักลอบนำรถข้ามชายแดนไปยัง สปป.ลาว ด้านจ.มุกดาหาร ดังนั้น ตำรวจจึงจับกุมนายวิทยาเพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หรือรับของโจร ซึ่งได้ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 31 ครั้ง

นอกจากนี้ มีของกลางรถยนต์คดีลักทรัพย์ จำนวน 4 คัน รถยนต์คดียักยอกทรัพย์ 1 คัน รถยนต์สวมทะเบียนหลอกขาย 11 คัน รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 7.5 ล้านบาท แถลงข่าวกับสื่อมวลชน จ.ขอนแก่น

พ.ต.อ.ออมสิน เปิดเผยว่า ส่วนรถยนต์คดีลักทรัพย์ คดียักยอกทรัพย์ และรถยนต์สวมทะเบียนหลอกขาย รวมจำนวน 16 คัน มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 7.5 ล้านบาท เป็นรถยนต์ ศปจร.ภ.4 ออกสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถ ลักลอบนำข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งให้ติดตามรถที่ถูกโจรกรรมในคดีลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือ รถสวมทะเบียน ปลอมแปลงเอกสารประกอบตัวรถ นำมาหลอกขายให้กับประชาชนทางอินเตอร์เน็ต

ดังนั้น ประชาชนที่ต้องการซื้อรถมือสอง ทั้งจากเต็นท์รถมือสอง หรือจากกลุ่มบุคคลที่ติดต่อประสานนำมาขาย จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงจากตัวรถจริง โดยเฉพาะเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ ว่ามีการดัดแปลงขูดลบแก้ไขหรือไม่ พร้อมทั้งนำไปตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียน

เบื้องต้นกับกรมการขนส่งทางบก ว่ามีการจดทะเบียนได้หมายเลขทะเบียนที่ถูกต้อง ตรงตามทะเบียนที่ติดอยู่กับตัวรถ ในขณะที่มีการนำมาเสนอขายหรือไม่ และมีข้อมูลรายละเอียดในสมุดคู่มือจดทะเบียนเกี่ยวกับเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ครอบครองถูกต้องตรงกับข้อมูล ในฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกโดยเฉพาะซื้อรถยนต์ทางอินเตอร์เน็ต ก่อนที่จะมีการตกลงซื้อขายหรือจ่ายเงินส่งมอบรถ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน