กรมโรงงานอุตสาหกรรมแจ้ง ซีพีเอฟปรับปรุงความปลอดภัยบ่อบำบัดน้ำเสีย หลังเกิดเหตุคร่าสยอง 5 ศพ ตำรวจตรวจจุดเกิดเหตุ เผยไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ จี้สอบฝาถูกเปิดหรือปิดไว้ก่อนเกิดเหตุ ชี้มอง 2 ประเด็น “ประมาทและอุบัติเหตุ” ยันคดีนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ ด้านพ่อน้องแป้ง หนึ่งในเหยื่อที่เสียชีวิตเผย ก่อนเกิดเหตุลูกสาวโทร.มาบอกจะทำงานที่ซีพีไปตลอดชีวิต และไม่คิดว่าจะเป็นการสั่งเสีย ส่วนงานศพน้องหวายไม่ตั้งรูปหน้าศพ เพราะครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ขณะที่เหยื่ออีกรายญาติ-เพื่อนแห่รับศพ ขึ้นป้ายเชิดชู “ฮีโร่ในดวงใจ”

จากกรณีนิสิตคณะสัตวแพทย์ จุฬาฯ นิสิตฝึกงาน และพนักงานบริษัทซีพีเอฟ พลัดตกลงไปภายในบ่อบำบัดน้ำเสีย ที่บริษัทซีพีเอฟ ซอยบางนา-ตราด 20 ขาเข้า แขวงบางนา เขตบางนา กทม. จนเสียชีวิตทั้งหมด 5 ราย ได้แก่นายพรศักด์ บุญบาล อายุ 40 ปี, นายชาญชัย พันธุนาคิน อายุ 42 ปี, นายชาตรี สีสันดร อายุ 53 ปี, ว่าที่ร.ต.(หญิง) ลักษ์ชนก แสนทวีสุข อายุ 24 ปี โดยทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทซีพีเอฟ และน.ส.ปัณฐิกา ตาสุวรรณ อายุ 23 ปี นิสิตชั้นปีที่ 5 คณะสัตวแพทย์ จุฬาฯ ซึ่ง ผู้บริหารซีพีเอฟตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และเยียวยาให้รายละ 3 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดพิธีบำเพ็ญกุศล ว่าที่ร.ต.(หญิง) ลักษ์ชนก หรือน้องแป้ง ที่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 10 ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบล ราชธานี เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติพี่น้อง รวมถึงเพื่อนๆ ร่วมรุ่นที่ศึกษา อยู่ที่ ม.อุบลราชธานี ที่ได้มาร่วมจัดเตรียมงานศพด้วย ซึ่งศพได้เคลื่อนมาถึงบ้านเกิดเมื่อเวลา 02.00 น. โดยการอำนวยความสะดวกของ เจ้าหน้าที่บริษัทซีพีเอฟ ทั้งนี้ เมื่อเวลา 08.00 น. นายสมชัย บูรณะ นายอำเภอน้ำยืน จ.อุบล ราชธานี ได้นำผู้แทนส่วนราชการเดินทางเข้าร่วมเคารพศพด้วย และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 28 มิ.ย. ที่วัดทรัพย์เกษตร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี สำหรับค่าใช่จ่ายในการจัดงานศพทางบริษัทซีพีเอฟได้ส่งตัวแทนมาดูแลและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

นายคำดี แสนทวีสุข อายุ 51 ปี พ่อของว่าที่ร.ต.(หญิง) ลักษ์ชนก เปิดเผยว่า ตนและภรรยายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกสาวเป็นเด็กดีและเป็นคนขยันทำงาน มีน้ำใจต่อเพื่อน และมักจะชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เป็นประจำ ซึ่งพ่อกับแม่ได้ตั้งความหวังไว้กับลูกสาวคนนี้มาก โดยได้ทำไร่ ทำนา เพื่อหาเงินส่งลูกจนเรียนจบปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม ม.อุบลราชธานี เมื่อเรียนจบก็ได้เข้าทำงานที่บริษัท ซีพีเอฟ ประเทศไทย จำกัด ได้ 4 เดือน ซึ่งก่อนเกิดเหตุลูกได้โทร.มาบอกว่าตั้งใจจะทำงานกับบริษัทซีพีไปตลอดชีวิต เพราะทำงานที่นี่แล้วมีความสุข พ่อและแม่ก็ได้ให้กำลังใจ ให้ลูกตั้งใจทำงาน แต่ไม่คิดว่าคำพูดนั้นจะเป็นการสั่งเสียของลูกสาว

ส่วนที่วัดทองธรรมชาติ ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด นางปภาดา พรหมเมือง ภรรยาของนายชาญชัย พร้อมนายนฤภัทร์ พันธุนาคิน อายุ 23 ปี และด.ช.ชยพล พันธุนาคิน วัย 5 เดือน และแม่นายชาญชัย โดยมีเพื่อนร่วมงาน ผู้ที่รู้จักคุ้นเคย เดินทางมารอรับศพด้วยความโศกเศร้า พร้อมกับทำป้ายเชิดชู “นายคือฮีโร่ในดวงใจตราบนิรันดร์” เมื่อกลางดึกวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เมื่อศพนายชาญชัยมาถึงวัดญาติได้นำศพออกจากโลง เพื่อทำพิธีรดน้ำศพพร้อมทั้งขออโหสิกรรมนายชาญชัย จากนั้นได้บรรจุศพเข้าโลงพร้อมกับสวดพระอภิธรรม โดยมีนายปริโสทัต ปุณณภุม รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านทรัพยากรบุคคล บริษัทซีพีเอฟ เป็นเจ้าภาพในพิธีสวดพระอภิธรรมในคืนแรก ขณะที่ศพนายชาญชัยกำหนดบำเพ็ญกุศล 5 คืน โดยวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 13.00 น. จะเป็นวันประชุมเพลิง

นางปภาดากล่าวว่า หลังจากนี้ต้องเข้มแข็งเพื่อลูกและเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดเหตุเพราะเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และโดยส่วนตัวสามีตนเป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือเพื่อน ลูกน้อง คนอื่น โดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน โดยที่ไม่คิดว่าตัวเองจะลำบาก

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานศพ น.ส.ปัณฐิกา ตาสุวรรณ หรือน้องหวาย นักศึกษาคณะสัตวแพทย์ ชั้นปีที่ 5 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ศาลาราษฎร์อุทิศ วัดเมืองกาย ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยภายในศาลามีพวงหรีดจากโรงเรียนเก่า และมหาวิทยาลัยปัจจุบัน รวมทั้งหน่วยงานต้นสังกัดของคุณพ่อคุณแม่ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าพิธีการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบง่าย และไม่มีการนำรูปน้องหวายมาประดับในงานศพแต่อย่างใด เนื่องจากครอบครัวยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ยังคงเศร้าโศกและยืนยันว่าน้องหวายยังมีชีวิตอยู่

ทั้งนี้ ญาติระบุว่าเข้าใจการทำงานของสื่อมวลชน แต่ครอบครัวเน้นความเรียบง่ายและความสงบ ส่วนวันฌาปนกิจน้องหวายชัดเจนแล้วว่าจัดขึ้นในวันที่ 29 มิ.ย. เวลา 13.00 น. ณ สุสานสันกู่เหล็ก โดยบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เป็นเจ้าภาพร่วมตลอดพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาทุกวัน

ส่วนความคืบหน้าของคดีที่ สน.บางนา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาตรวจสำนวนการสอบสวน และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย นอกจากนี้ทางบริษัทมีการเยียวยาผู้เสียหายอย่างเต็มที่ แต่ในทางคดีความต้องใช้เวลาสอบสวนอีกว่าทางบริษัทได้ประมาทหรือไม่ รวมทั้งในส่วนเรื่องของฝาท่อปกติจะมีการปิดปากท่อไว้หรือมีการเปิดเพื่อเหตุผลใด อีกทั้งต้องให้ผู้ชำนาญการเฉพาะทางเข้าไปตรวจสอบด้วยว่าลักษณะโครงสร้างเป็นอย่างไร รวมไปถึงพยานหลักฐานบุคคลที่เกี่ยวข้อง พยานวัตถุ พยานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันในข้อเท็จจริง อีกทั้งกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุมีการติดตั้งหรือไม่

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 8 ปาก ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นมองได้ 2 กรณี คือมีผู้ทำให้ตาย โดยแยกออกมาว่าเกิดจากความประมาทหรือเป็นการจงใจ และอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย หลังจากนี้ตนจะติดตามสำนวนคดีเพื่อคลี่คลายให้หายข้อสงสัยทุกประการตามความเป็นจริง

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดเห็นเหตุการณ์ ซึ่งต้องเรียกพยานที่อยู่ในวันเกิดเหตุมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โดยทราบเพียงว่าพยานไม่เห็นว่าฝาท่อปิดอยู่ก่อนแล้วหรือไม่เนื่องจากพยานเห็นหลังจากเกิดเหตุการณ์ ทั้งนี้ ในบริเวณจุดดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิดซึ่งต้องสอบปากคำพยานแวดล้อมโดยละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้น่าจะมีผู้รับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่หากพบว่ามีผู้ใดบกพร่องจะเตรียมพิจารณาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุภายในสถานที่ดังกล่าวเพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังจากลงพื้นที่ได้เดินทางกลับในทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ด้านนายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ได้พูดคุยและทำหนังสือไปยังโรงงานของบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) โดยให้หยุดดำเนินการและปรับปรุงโซนบ่อบำบัดน้ำเสียตามมาตรฐานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยภายในโรงงานให้เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทราบว่าทางโรงงานได้ปรับปรุงระบบความปลอด ภัยให้ได้มาตรฐาน ตั้งแต่การติดตั้งสัญลักษณ์ การจัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงงานประจำจุดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปคงต้องรอให้ทางซีพีเอฟทำหนังสือแจ้งมายังกรม ให้เข้าไปตรวจสอบ กรมจึง จะพิจารณาว่าจะสามารถให้ทางโรงงานเปิดดำเนินการต่อไปได้หรือไม่

นายมงคลกล่าวต่อว่า สำหรับโทษทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.โรงงาน มีโทษปรับสูงสุด 2 แสนบาท หรือโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าทางโรงงานผิดเรื่องใดบ้างและต้องมีบทลงโทษในเรื่องใด คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมก่อน ทางกรมจึงจะดำเนินการต่อภายหลัง นอกจากนี้ กรมเตรียมหารือกับสมาคมวิศวกรสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย เพื่อออกมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงานเพิ่มเติมในอนาคต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน