เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. จ.อ.ศิริวัฒน์ ขันตี หน.ปภ.เทศบาลตำบลหนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม รับแจ้งเหตุว่ามีรถไฟไหม้ในพื้นที่ ต.นาทราย อ.เมือง หลังรับแจ้งรุดไปพร้อมรถดับเพลิงเทศบาล ต.หนองญาติ และรถดับเพลิง อบต.นาทราย กู้ภัยนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่ ตร.ทล.สทล.5 กก.4 ป้อมยามหนองญาติ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนทางหลวง 22 สายนครพนม-สกลนคร ฝั่งขาออกตัวเมือง ช่วงบ.โนนขาม พบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรน่า รุ่นเก่าสีแดง ทะเบียน กง7009 นครพนม บริเวณกระโปรงห้องเครื่องมีเปลวไฟพวยพุ่งโชติช่วง จึงระดมฉีดน้ำสกัดใช้เวลานาน 5 นาที เพลิงจึงสงบ ส่วนคนขับทราบชื่อ ร.ต.ท.ธนิกพล ขันตี อดีตรอง สารวัตร(สอบสวน) ภ.จว.นครพนม คนขับ และภรรยา พร้อมบุตรสาว หนีออกจากตัวรถได้ทันหวุดหวิด หลังเพลิงสงบตรวจสอบพบว่า รถคันดังกล่าวพบว่าที่ท้ายรถติดแก๊สแอลพีจี โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

น.ส.สุดธินี ขันตี อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บุตรสาว ร.ต.ท.ธนิกพล เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกว่า ขณะที่บิดาขับรถคันดังกล่าวจากบ.ดงโชค ต.หนองญาติ ช่วงเช้าจะไปส่งตนที่ จ.ขอนแก่น ขณะเดินทางถึงที่เกิดเหตุได้แค่ 12 กิโลเมตร เครื่องยนต์ไม่มีแรงส่งและเร่งเครื่องไม่ขึ้น บิดาจึงจอดรถดูอาการ

“สักพักพบว่ามีประกายไฟลุกที่ห้องเครื่อง มีควันพุ่งออกมาจากช่องแอร์ ตนกับพ่อแม่ จึงรีบวิ่งออกจากตัวรถ ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ขณะเกิดเหตุจึงโทรศัพท์แจ้ง จ.อ.ศิริวัฒน์ พี่ชายมาช่วยดับไว้ทัน ซึ่งทรัพย์สินภายในรถมีเงินสด 8,000 บาท คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รวมรถที่ไหม้ไฟวอดรวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท วอดไปกับกองเพลิง

ด้นครพนมาน จ.อ.ศิริวัฒน์ บุตรชาย ผู้ประสบเหตุ กล่าวว่า รถคันนี้เป็นรถมือ 2 พ่อซื้อมาใช้งานนาน 6 ปี ก่อนเกิดเหตุนำรถออกจากอู่ซ่อมก่อนเช็คเครื่องเพื่อจะเดินทาง บังเอิญลืมเปิดฝากระโปรงทิ้งไว้ มีสุนัขที่บ้านพักเข้าไปนอนในห้องเครื่อง สันนิษฐานว่าอาจไปเกี่ยวสายไฟ กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว โชคดีที่ตนไปดับไว้ทัน หลังเกิดเหตุบิดาจึงตัดสิ้นในขายซากรถทิ้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน