วันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่ค้าขายอาหารทะเลสด ร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งถูกจับกุมหลังจากกลับมาจากรับหอย ปูและปลาทู จากในพื้นที่ จ.ตรัง และเดินทางกลับบ้านที่ จ.พัทลุง ในช่วงเคอร์ฟิวร์ โดยเหตุเกิดพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อคืนวันที่ 2 มิ.ย.ผ่านมา
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
โดยแม่ค้าคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้กลับมาจากรับชื้อกุ้ง ปู และหอย มาจาก จ.ตรัง มุ่งหน้าเข้าบ้านในพื้นที่ อ.เมืองพัทลุง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นและจับกุมนำตัวส่ง สภ.เมืองพัทลุง พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม มีระดับสารวัตร นายดาบ พร้อมตำรวจฝึกงาน เมื่อมาถึงที่โรงพักก็ได้ขอคุย โดยบอกว่าเจอหลายกระทง แต่ขอให้ไปเคลียร์กับสารวัตร พร้อมทั้งเรียกเงิน 80,000 บาท ตนไม่มีขอลดให้เหลือ 40,000 บาท ตนก็บอกว่าไม่รู้จะเอาเงินจากไหน
สุดท้ายขอ 10,000 บาท โดยตนไม่มีเงินสด จึงขอยืมจากญาติของสามีมาได้ 5,700 บาท แต่ก็ไม่ครบ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปเบิกเงินมาจากตู้ ตนบอกว่าไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ขอโอนทางโทรศัพท์ โดยผ่านบัญชีดาบตำรวจชุดจับกุมไป แต่เงินไม่ครบจำนวน 10,000 บาท ทางชุดจับกุมได้ต่อรองเอาปู หอย กุ้ง ที่อยู่ในรถ คิดเป็นเงิน 4,300 จนครบ พร้อมบอกอย่าได้เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร และเมื่อโอนเงินเสร็จ ก็โกรธสุดๆ ตรงที่ตำรวจชุดนี้ กำลังนั่งกินเหล้ากันอยู่ และให้ตนนั่งแกะหอยนางรมให้พวกเขากินจนหลังเที่ยงคืนกว่าจะได้กลับบ้าน ตอนนี้ตนกลัวสุดๆ หลังจากตำรวจชุดดังกล่าวโทรมาขู่ และคุกคามหลังมีการแชร์ในโลกโซเชียล
ด้าน พล.ต.ต.กฤษดา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทราบจากสื่อแล้ว พร้อมทาง ผกก.สภ.เมืองพัทลุง ได้รายงานเข้ามา โดยให้รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง ลงติดตามเรื่องนี้ พร้อมระบุว่าหากเป็นไปตามพยานหลักฐานจริงตามที่เป็น ก็จะดำเนินคดีตามระเบียนและกฎหมาย จะไม่เว้นอย่างแน่นอน
