สลดใจ หญิงสาวฐานะยากจนเข้าป่าหาหน่อไม้จะมาต้มให้ลูกกินเพื่อประทังชีวิต ระหว่างทางเกิดเป็นลมชักวูบจนหน้าคว่ำจมร่องน้ำลึกเพียง 1 นิ้ว เสียชีวิต โดยมีสุนัขคู่ใจผู้ภักดีเห่าเรียกคนมาช่วย และเฝ้าศพเจ้านายอยู่ไม่ห่างศพกลางป่า

เวลา 09.00 น. พ.ต.ต.สมศักดิ์ เกตุสาคร สารวัตรเวรสอบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก ได้รับแจ้งจากชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ว่าพบศพหญิงสาวนอนเสียชีวิตภายในป่าท้าย หมู่บ้านร่วมใจพัฒนา หมู่ที่ 10 ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยหลังรับแจ้งเหตุตำรวจ และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด พร้อมหน่วยกู้ชีพนครแม่สอดอินเตอร์ รีบเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางลูกรังเข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้าน เส้นทางเข้าออกยากลำบากเนื่องจากเป็นฤดูฝน และพบชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวต่างมามุงดูรอบสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องกันออกนอกจุดเกิดเหตุ โดยที่ริมถนนซึ่งเต็มไปด้วยต้นไผ่ พบศพหญิงสาวทราบชื่อ นางมะแป อายุ 42 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต สวมเสื้อแขนยาวและสวมผ้าถุง โดยที่ใบหน้าของผู้ตายคว่ำหน้าจมร่องน้ำท่วมขังที่ลึกเพียง 1 นิ้ว ขณะที่ในมือผู้ตายยังกำเสียมขุด และถุงกระสอบที่ภายในมีหน่อไม้อยู่ภายในกระสอบกว่า 10 หน่อ ขณะที่ห่างกันไปเล็กน้อยยังพบเจ้าน้ำตาล สุนัขสายพันธุ์ไทยแท้ ซึ่งเป็นสุนัขที่ผู้ตายเลี้ยงและเดินติดตามผู้ตายเข้าไปในป่าเพื่อหาหน่อไม้ ได้นั่งเฝ้าศพเจ้านายที่เสียชีวิตโดยไม่ห่างจากศพ ท่ามกลางความสลดใจของชาวบ้านที่ไปดูเหตุการณ์ในครั้งนี้

จากการสอบสวน เด็กชายเล็ก อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของผู้เสียชีวิตให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุนางมะแป มารดาของตนเองที่มีฐานะยากจน ได้เดินเท้าออกจากบ้านพักไปพร้อมกับเจ้าน้ำตาล สุนัขคู่ใจ เพื่อเข้าป่าไปหาหน่อไม้ป่าเพื่อจะมาต้มให้ให้ตนเองรับประทานเป็นอาหารเช้า ขณะที่ตนเองนั่งรอมารดากลับบ้านแต่ก็ไม่มีวี่แววที่มารดาจะกลับบ้าน โดยเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าน้ำตาลสุนัขที่ติดตามแม่เข้าป่าไปหาหน่อไม้ ได้วิ่งกลับมาที่บ้านพักและเห่าหอนเสียงดัง แต่ไม่ปรากฏว่ามารดาของตนเองเดินทางกลับมาด้วย ตนเองจึงสงสัยจึงแจ้งให้ผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้บ้านพัก ให้รีบเข้าป่าไปตรวจสอบโดยมีเจ้าน้ำตาลวิ่งนำหน้าไป เมื่อไปถึงแนวป่าที่มีต้นไผ่ขึ้นหนาทึบ ก็พบร่างของมารดานอนคว่ำหน้าจมน้ำตื้นๆ เพียง 1 นิ้วเสียชีวิต อยู่ข้างถุงหน่อไม้ที่มารดากำลังจะนำกลับบ้านไปให้ตนเองรับประทาน

เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายซึ่งมีโรคประจำตัว เป็นโรคลมชัก โรคประจำตัวอาจจะกำเริบแบบฉับพลันจนเป็นลมชักและวูบล้มลงไปกับพื้นที่มีน้ำท่วมขังจนใบหน้าคว่ำจมน้ำเสียชีวิตโดยไม่มีใครพบเห็นและช่วยเหลือได้ทัน เสียชีวิตอย่างน่าสลดใจ ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้มอบศพให้ญาติผู้เสียชีวิตนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนบุตรชายซึ่งกลายเป็นเด็กกำพร้าโดยทันที ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานญาติผู้ใหญ่ให้รับเด็กไปดูแลต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน