เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 2 กรกฎาคม 2560 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้พานางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เข้าพบผู้สื่อข่าว เพื่อนำเสนอเรื่องราวเป็นการเตือนภัยสังคม หลังจากที่นางสาวเอ (นามสมมติ) ได้ถูกบุรุษพยาบาลของสถานบริการทางการแพทย์เอกชนแห่งหนึ่งลวนลามขณะที่เธอไปทำการล้างแผล เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560 เวลาประมาณ 19.00 น. ที่ผ่านมา
นางสาวเอ (นามสมมติ) เล่าว่า ในวันนั้นเธอได้ไปทำการล้างแผลที่บริเวณโคนต้นขาข้างขวา เนื่องจากถูกความร้อนของที่หนีบผมทำให้เป็นแผลไฟไหม้พุพอง ซึ่งเมื่อไปถึงก็มีบุรุษพยาบาลคนหนึ่งเป็นคนทำแผลให้เธอ โดยให้ขึ้นไปนอนคว่ำบนเตียง จากนั้นก็ถกขากางเกงผ้าขาสั้นของเธอขึ้นมาสูงเกือบถึงเอว แล้วก็ลงมือทำแผลให้ แต่ใช้เวลานานมากกว่าปกติเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งในช่วงที่ทำแผลอยู่นั้น บุรุษพยาบาลคนที่หญิงสาวกล่าวถึง ก็ให้เธอแหกขาอีกข้างหนึ่งออก ซึ่งเธอก็ทำตามเพราะคิดว่าน่าจะช่วยทำให้การทำแผลง่ายขึ้น แล้วก็ได้ชวนพูดคุยและถามเรื่องส่วนตัวของเธอต่างๆ นานา เช่น มีแฟนแล้วใช่มั้ย เพิ่งมีประจำเดือนหรือป่าว โสดมั้ย
นอกจากนี้พฤติกรรมที่เชื่อได้ว่าเป็นการลวนลามเธอขณะที่กำลังทำแผลให้คือ มือของบุรุษพยาบาลคนนั้นได้ไปสัมผัสของสงวนของเธอหลายครั้ง ซึ่งเธอเองก็อยากจะร้องให้คนช่วยแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่อดทนจนทำแผลเสร็จ ก็รีบออกมาจากห้องนั้น และไม่รอรับใบนัดอย่างที่พยาบาลหน้าห้องสั่งไว้
นางสาวเอเล่าอีกว่า หลังจากที่ออกมาจากห้องทำแผลแล้ว เธอก็รีบกลับบ้านและเล่าให้เพื่อนที่ไปด้วยกัน กับคนที่บ้านฟัง ซึ่งเพื่อนก็บอกให้โทรศัพท์มาเล่าให้ทางผู้ดูแลสถานพยาบาลเอกชนดังกล่าวรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเธอก็โทรศัพท์มาเล่าให้ฟังและทางผู้รับเรื่องก็บอกว่าจะรายงานให้ผู้บริหารทราบ อีกทั้งยังจะได้เรียกบุรุษพยาบาลคนดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งหากกระทำผิดจริงก็จะต้องถูกไล่ออก แต่เบื้องต้นทางผู้รับเรื่องได้บอกกับเธอว่าจะย้ายบุรุษพยาบาลคนนั้นไปอยู่ที่อื่นก่อน แล้วก็นัดให้เธอมาพบกับผู้บริหารฯ ในเวลาประมาณ 19.00 น. ของอีกวันหนึ่ง ซึ่งเธอก็ไปแต่ไม่พบใคร
ต่อมาก็บอกให้เธอมาอีกในวันรุ่งขึ้น แต่เธอไม่เชื่อและไม่ไว้ใจแล้ว เพราะขนาดเธอขอพบกับบุรุษพยาบาลที่เธอบอกว่าลวนลามเธอนั้น ทางสถานพยาบาลเอกชนก็ไม่ให้พบ ดังนั้นในวันรุ่งขึ้นของอีกวันหนึ่ง เธอจึงโทรศัพท์มาหานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และเข้ามาปรึกษาที่สำนักงานฯ ก่อนที่จะเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.กระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า จะออกหมายเรียกบุรุษพยาบาลคนดังกล่าวมาสอบปากคำ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งในส่วนตัวของเธอนั้นเพียงแค่ต้องการให้สถานพยาบาลเอกชนแห่งนั้นรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และลงโทษบุรุษพยาบาลคนนั้นขั้นเด็ดขาด
ส่วนทางด้านของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทนายประชาชนฯ ก็บอกว่า จากเหตุการณ์ที่น้องเอเล่า นั้นมานั้น ถือได้ว่าถูกลวนลามเข้าข่ายถูกทำอนาจารแล้ว ซึ่งตามกฎหมายผู้ที่กระทำความผิดจะต้องมีโทษระวางจำคุกไม่เกิน 10 ปี และเป็นการกระทำความผิดที่ไม่สามารถยอมความกันได้ ซึ่งตอนนี้ก็รอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ และรอว่าทางสถานพยาบาลเอกชนดังกล่าวจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันหากมีหญิงสาวท่านใดที่เคยถูกลวนลามในลักษณะเช่นนี้ ก็ขอให้แจ้งมาได้ที่ทีมงานทนายประชาชน
