แม่ค้าขายน้ำส้มเดือด! โดนเทศกิจจับปรับ 2 พัน ทั้งๆ ที่มาจอดรถรอลูก ไม่ได้ขายของ ยึดกุญแจรถ สุดช้ำเทน้ำส้มทิ้งถังขยะต่อหน้า โอดทำกับคนจนๆ ได้
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เฟซบุ๊กชื่อว่า วรรณา เกตุสุวรรณ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กว่า “เป็นเทศกิจมึงเที่ยวมาจับแม่ค้า มึงหัวสมองคิดดูดิว่าถ้าพ่อแม่พี่น้องมาขายของแล้วถูกเทศกิจจับมาเรียกค่าปรับ 2,000 จะมีความรู้สึกยังไง มายึดกุญแจรถกูมึงมีสิทธิ์อะไร ขอกุญแจรถคืนพูดมาได้ยังไงว่าอย่ามาถูกตัวนะ ไม่ได้อยากจะไปถูกตัว ถูกตรงไหนวะ พูดไม่ดูสารรูปเลยอะ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ถามมึงว่าจะแจ้งข้อหาจับเรื่องไร ยิ่งพูดยิ่งโมโห คนทำมาหากินต้องเลี้ยงลูกตั้ง 2 คน ไปขอไอ้หัวหน้าว่าปรับน้อยได้มั้ย ไอ้หัวหน้าบอกไม่ได้ ใจพวกมึงทำด้วยอะไร ไม่มีเมตตาสงสารคนจนเลยอะ ใจร้ายมากๆ ไม่มีความเมตตาเลย ขนาดบอกไม่มีเงินเสียหรอก 2,000 ยังไร้ความปราณีเลย กูยิ่งพูดของยิ่งขึ้น”
พร้อมกับรูปภาพที่เจ้าหน้าที่เทศกิจกำลังเทสินค้าของตน ที่เป็นน้ำส้มปั่นลงในถังขยะ ต่อหน้าเจ้าของที่เป็นแม่ค้า ซึ่งทำให้ตนโมโห เพราะเงินต้นทุนที่ซื้อมายังไม่ทันเอาไปส่งลูกค้าแต่กลับมาถูกทิ้งลงถังขยะ
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี พบกับ นางวรรณา เกตุสุวรรณ อายุ 52 ปี แม่ค้าขายน้ำส้มปั่นเจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวานวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.30 น.ตนขี่รถจักรยายนต์ ที่มีลังน้ำส้มปั่นมารอลูกสาว บริเวณบางแสน เพื่อจะไปส่งน้ำส้มปั่นให้กับลูกค้าที่อ่างศิลา
แต่รอได้สักพักมีเจ้าหน้าที่เทศกิจของเทศบางเมืองแสนสุข ก็เดินปรี่เข้ามาจับกุม หาว่าตนนั้นกำลังขายน้ำส้มปั่น ตนก็บอกเหตุผลไปแล้วว่า มารอลูกสาว เพื่อที่จะไปส่งให้กับลูกค้าตนไม่ได้ขายตรงนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่เทศกิจของเทศบาลเมืองแสนสุข ไม่ฟัง และยังยึดขิงที่อยู่ในลังไปและจะเอารถจยย.ของตนไปด้วย แต่ตนไม่ยอม จึงได้แต่น้ำส้มปั่นไป
จากนั้นก็มีปากเสียงกัน และเจ้าหน้าที่เทศกิจบอกกับตนว่า ให้ไปเสียค่าปรับจำนวน 2,000 บาท ตนจึงเข้าไปที่สำนักงานเทศกิจเทศบาลเมืองแสนสุข ปรากฏว่าพอไปถึงตนได้ต่อรองขอจ่ายที่ 200 บาท เพราะตนไม่ได้ขายของในที่บริเวณนั้น เพียงแค่จอดรอลูกสาว แต่กลับโดนทางหัวหน้าของเทศกิจไล่ออกมาว่าหากไม่มี 2,000 บาท ก็ไม่ต้องมาคุยเสียเวลาทำงาน
จากนั้นก็ให้พนักงานนำสินค้าของตนที่เป็นน้ำส้มปั่น มาเทลงทิ้งที่ถังขยะ ต่อหน้าตน ซึ่งทำให้ตนโมโหกว่าเดิม ว่าทำไมกับคนจนๆ ต้องรังแกข่มเหงกันขนาดนี้ด้วย เงินที่ลงทุนไปหวังจะไปส่งลูกค้า แต่กลับมาโดนทิ้งลงถังขยะ ตนก็ไม่มีเงินที่จะหมุนไปเอาสินค้าใหม่มาขายให้กับลูกค้า พร้อมยืนยันเรื่องราวที่เกิดขึ้นมานั้น เป็นเรื่องจริงทุกประการตนไม่ได้มาปรับแต่งหรือแก้ไขแต่อย่างไดเป็นความจริงทั้งหมด
