เจอแล้วพ่อเลี้ยงเดี่ยวลูกน้อย 6 เดือน หายตัวปริศนา 10 วัน พบผูกคอเสียชีวิตเป็นศพขึ้นอืดอยู่กลางป่าห้วยข้าวหลาม ไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย เร่งชันสูตร
กรณีนายธนกฤต หรือ “อ่าง” ธีระวงศ์ปรีดา อายุ 24 ปี ชาวบ้านออนหล่วย ต.สหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ พ่อเลี้ยงเดี่ยวลูกวัย 6 เดือน หายจากบ้านปริศนา โดยไม่ได้นำกระเป๋าเงินและยารักษาโรคประจำตัวไป เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา สวมเสื้อคลุมแขนยาว กางเกงยีนส์สามส่วน สวมรองเท้าแตะสีดำ ขี่รถจยย.ฮอนด้า สีดำ-แดง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากญาติของ นายธนกฤต หรือ “อ่าง” ธีระวงศ์ปรีดา อายุ 24 ปี ชาวบ้านออนหล่วย ต.สหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ หายตัวไป 10 กว่าวันว่า ช่วงเย็นของวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา
อ่านข่าว ประกาศตามหา! คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวลูกน้อยวัย 6 เดือน หายจากบ้านปริศนา
ทางพนักงานสอบสวน สภ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ รับแจ้งว่าชาวบ้านไปพบศพชายคนหนึ่งผูกคอเสียชีวิตที่ในป่าห้วยข้าวหลาม บ้านโป่งนก หมู่ 8 ต.สหกรณ์ อ.แม่ออน จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยฯเวียงฟ้า อบต.สหกรณ์ หน่วยกู้ภัยฯออนเหนือ
พบว่าที่บริเวณป่ามีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีดำ-แดง จอดอยู่ ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบศพชายคนหนึ่งผูกคอเสียชีวิต สภาพศพขึ้นอืด ต่อมาทราบผู้เสียชีวิตชื่อ นายธนกฤต หรือ “อ่าง” ธีระวงศ์ปรีดา อายุ 24 ปี ชาวบ้านออนหล่วย ต.สหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ จากนั้นปลดศพลงมาตรวจตามร่างกายไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงนำศพส่งรพ.แม่ออน
ทั้งนี้ นายศรีทุน อุดต่อ อายุ 64 ปี ชาวสหกรณ์ 2 ต.สหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ไปแจ้งความคนหายต่อ พ.ต.ท.ศักรินทร์ วิรัตน์เกษม พนักงานสอบสวน สภ.แม่ออน ว่านายธนกฤตหายออกจากบ้านเมื่อช่วงเวลา 09.00-10.00 น. วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีบรอนด์ กางเกงยีนส์สามส่วน สวมรองเท้าแตะสีดำ ขี่รถจยย.ฮอนด้า สีดำ-แดง
ส่วนกระเป๋าเงินและยารักษาโรคประจำตัวไม่ได้เอาไปด้วย บอกว่าจะไปสงบสติอารมณ์สัก 2-3 วัน แล้วจะกลับมาแล้วก็หายตัวไป ซึ่งนายธนกฤต หรือ”อ่าง” เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีลูกชายวัย 6 เดือน ร้องไห้หาพ่อตลอดเวลา
ขณะนี้ศพนายธนกฤตตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีไว้ 1 คืน และช่วงบ่ายวันที่ 11 มิ.ย.2563 จะทำพิธีฌาปนกิจศพ ณ ป่าช้าบ้านสหกรณ์ 2 กันต่อไป ส่วนลูกชายของนายอ่าง ผู้เสียชีวิตทางญาติได้ดำเนินการรับเลี้ยงดูต่อไป
