ค้ำรถให้คนรู้จัก จนถูกยึดบ้าน เครียดจะผูกคอตาย หลานร้องหิวนมจึงได้สติ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ นางอำไพ โพธิประสิทธิ์ อายุ 60 ปี ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี หลังทราบข่าวว่าตกเป็นเหยื่อหนี้ค้ำประกัน จนทำให้อาจถูกยึดบ้าน และพยายามฆ่าตัวตาย

นางอำไพ เล่าว่า เมื่อประมาณปี 2555 มีคนที่นับหน้าถือตากันในหมู่บ้าน มาขอร้องให้ค้ำประกันรถยนต์ให้ จึงค้ำประกันรถกระบะมือสองให้ไป ก็เห็นหน้ากันอยู่ประมาณ 2-3 เดือน จากนั้นก็หายไป ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ไหน รถตนก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยนั่ง

ต่อมามีหนังสือ และมีคนมาติดป้ายหน้าบ้าน ว่าจะยึดบ้านขายทอดตลาด ซึ่งตนก็ยังงงไม่รู้เรื่องที่เกิด จน 6 วันต่อมา มีทนายคนหนึ่งที่เขาประมูลบ้านได้มาหาที่บ้าน บอกว่า “ป้าบ้านนี้ผมประมูลมาได้แล้วนะ” ตนถึงกับช็อก เพราะไม่ทราบเรื่องอะไรเลย

“ทนายยังบอกว่า ถ้าป้าจะอยู่ต่อ ป้าต้องคุยกับผม และก็ต้องเช่าผม หากอยากได้บ้านต้องหาเงินมาซื้อคืน ป้าจึงถามไปว่าเท่าไหร่ เขาตอบว่า 870,000 บาท ป้าก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหน บ้านหลังนี้ป้าทำมา สร้างมาด้วยชีวิต มีที่อยู่ที่เดียว ลูกหลานก็ยังไม่โต แล้วป้าไม่เคยรู้เลยว่าจะต้องมาเป็นหนี้เป็นสินอย่างนี้ ทำไมถึงมาลงที่ป้า ทำไมความยุติธรรมไม่มี (ร้องไห้)”

“ต่อมาอีกประมาณ 20 วัน ทนายโทรมาบอกอีก บอกว่า เขาลดให้ 600,000 บาท เพราะเขาสงสารป้า แต่เงิน 600,000 ป้าก็คงไม่มีปัญญาหามา ป้าคงไม่หนีไปจากนี้ ถ้าว่าจะเสียไปจริง ๆ ป้าก็ขอตายอยู่ที่นี่ดีกว่า”

ป้าลำไพ กล่าวต่อว่า ต่อมาเขาจะมายึดบ้านจริง ๆ เขาให้เวลาสักเดือนหนึ่ง ไม่งั้นทุกคนในบ้านจะโดนจับหมด จนหัวหน้าแฟนที่ทำงานช่วยหาทนายมาให้ ไปยื่นศาลไปช่วยเพิกถอนคดี ตนก็ไม่เข้าใจ แต่ยังได้อยู่ต่อ แต่ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ ตนต้องไปขึ้นศาลใหม่อีกที

ช่วงที่ผ่านมามีครั้งหนึ่งตนเครียดมาก คิดฆ่าตัวตาย เพราะปัญหามันแก้ไม่ได้ น้อยใจที่หนี้เราไม่ได้สร้าง แต่ทำไมกรรมต้องมาอยู่กับเรา ถือเชือกขึ้นบนบ้านจะแขวนคอตาย เวลาตีสามตอนนั้นไม่มีใครตื่น ตั้งใจจะลาโลกจริง ๆ แต่ได้ยินเสียงหลานสาว 2 ขวบ ร้องหิวนมหม่ำ ๆ ทำให้ได้สติคิดว่าถ้าตายไปใครจะอยู่กับหลาน แล้วใครจะแก้ไขเรื่องนี้ต่อ จึงตัดสินใจมีชีวิตต่อ เพื่อรอวันที่ 4 ส.ค. นี้

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน