ผอ.รร.บ้านไผ่ศึกษา ขอนแก่น เปิดใจแล้วยืนยันไม่ได้ตบหน้าเด็กนักเรียนชั้นม.2 ที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยมือถือ บอกดูแลนักเรียนเหมือนครอบครัวไม่ทำร้ายลูกศิษย์แน่นอน แต่ที่ไม่ออกมาพูดก่อนหน้านี้เพราะเป็นห่วงอนาคตของเด็ก

กรณีด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ถูกผู้อำนวยการโรงเรียบตบเข้าที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ เพื่อบังคับให้เด็กนักเรียนรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยโทรศัพท์รุ่นพี่ ซึ่งขณะนี้นั้นยุติธรรม จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 6 ก.ค. ที่ห้องประชุม ร.ร.บ้านไผ่ศึกษา ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายวรรณปกรณ์ จุมพลน้อย อายุ 41 ปี ผอ.รร.บ้านไผ่ศึกษา ซึ่งถูกนักเรียนชั้นม.2 ของโรงเรียนระบุว่า ถูกตบหน้าในห้องพักครู เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา และขณะนี้ผู้ปกครองนักเรียนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อเอาผิดในเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกว่า ดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนแห่งเข้าสู่ปีที่ 2

สิ่งที่เกิดขึ้นขอยืนยันต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ไม่ได้ตบหน้านักเรียน ไม่มีการทำร้ายร่างกายนักเรียน โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนกว่า 100 คน สอนตั้งแต่ม.1-ม.6 ครูกับนักเรียนดูแลกันเหมือนครอบครัว ไม่มีครูคนไหนทำร้ายร่างกายหรือตบตีลูกศิษย์ตัวเองได้ลงคอ

“คลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจากโรงเรียนมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด 12 ตัว ติดอยู่ตามที่ต่างๆภายในโรงเรียน แต่ขณะนี้ไม่สามารถนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ เพราะคลิปดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลักฐานในคดีอาญา จึงขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 มิ.ย. ขณะที่ผมกำลังอบรมนักเรียนในห้องประชุม เห็นนักเรียนหญิงชั้นม.3 นั่งร้องไห้ในห้องประชุม สอบถามจึงทราบว่าโทรศัพท์มือถือหาย เมื่อรู้ว่ามีทรัพย์สินของนักเรียนหาย จึงเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียนดู ก็พบภาพบางอย่างในกล้องวงจรปิด แต่เพราะเห็นแก่อนาคตเด็ก ขณะนั้นจึงไม่ได้แจ้งตำรวจ” นายวรรณปกรณ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่มีการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวนั้น นายวรรณปกรณ์ถึงกับร้องไห้ เนื่องจากเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและยืนยันว่า ที่ไม่ออกมาพูดตั้งแต่แรก เพราะเห็นแก่อนาคตของนักเรียน อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอน ตอนนี้ได้พูดแล้วสบายใจ ไม่นึกโกรธนักเรียนและผู้ปกครอง ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี และมีการเปลี่ยนแปลง ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือและดูแลนักเรียนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน