วันที่ 22 มิ.ย. นางแป้น (นามสมมติ) อายุ 53 ปี พา ด.ญ.ปุ๋ย (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ หลานสาวพิการทางสมอง ที่พ่อแม่แยกทางตั้งแต่เล็กทิ้งไว้ให้ตายายดูแล เดินทางจาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าถูก 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีข่มขืน ด.ญ.ปุ๋ย ข่มขู่จะฆ่าล้างโคตร หลังได้รับการประกันตัวในชั้นศาลออกมาสู้คดี จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
นางแป้น กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอม ด.ญ.ปุ๋ย ออกไปขี่จักรยานเล่นในหมู่บ้านและหายไปตั้งแต่เช้าจนค่ำ เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงถามหลานว่าไปไหนมา หลานบอกว่า นายสาม (นามสมมติ) อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งเป็นน้องชายอดีตตำรวจและเป็นใบ้ พาไปที่บ้านพักแล้วข่มขืน ซึ่งนายสามทำมาหลายครั้งแล้ว หลังข่มขืนเสร็จก็จะให้เงินประมาณ 40-50 บาท ไปกินขนม
และนอกจาก นายสาม แล้วยังมี นายหนึ่ง อายุ 76 ปี กับ นายสอง อายุ 30 ปี เคยพาไปข่มขืนในห้องน้ำวัดในหมู่บ้าน นายสี่ อายุ 40 ปี พาไปข่มขืนที่บ้านและในห้องน้ำวัด ทั้งที่ นายสี่ เองก็เคยมาขอเงิน ขอข้าวปลาอาหารที่บ้านตนกินบ่อยครั้ง ตนสงสารก็ให้กินเป็นประจำ และ นายห้า อายุ 60 ปี เคยพาไปข่มขืนที่บ้านของเจ้านาย ตนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายกับหลานสาว ซึ่งตนเชื่อว่าทั้ง 5 คน คงจะต้องรู้กันและบอกต่อให้มากระทำกับหลานของตนซึ่งเป็นเด็กไม่ปกติ
นางแป้น กล่าวต่อว่า หลังรู้เรื่องทั้งหมดได้พา ด.ญ.ปุ๋ย เข้าแจ้งความที่ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีกับชายทั้ง 5 คน และร้องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณา เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และ นางปวีณา ได้ช่วยเหลือประสานกับ พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน ส่ง ด.ญ.ปุ๋ย ตรวจร่างกายและสอบสหวิชาชีพกระทั่งออกหมายจับและจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุทั้ง 5 คน มาดำเนินคดีข้อหา ข่มขืนเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 13 ปี, พรากเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ไปเพื่อการอนาจาร พร้อมคุมตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ต่อมาผู้ต้องหา 4 คน จากทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายหนึ่ง นายสาม นายสี่ และ นายห้า ได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล หลังได้รับการปล่อยตัวออกมาประมาณวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายห้า ได้มาข่มขู่จะฆ่าล้างโคตร ตนและครอบครัวเกรงจะไม่ปลอดภัย เพราะก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่าเมื่อ 20 กว่าปีก่อน นายห้า เคยฆ่าคนตายและหนีคดีมาจาก จ.นครสวรรค์ ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ผู้ต้องหาบางคนยังไปปล่อยข่าวว่าตนรับเงินเพื่อจบคดีแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนสงสารหลานมากที่ต้องมาเผชิญชะตากรรมเลวร้าย อยากจะขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณา ด้านความปลอดภัย และส่ง ด.ญ.ปุ๋ย เข้าเรียนในโรงเรียนสำหรับเด็กพิการทางสมอง
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน เพื่อจะให้ นางแป้น ไปพบและแจ้งความกรณีถูกข่มขู่ในวันอังคารที่ 23 มิ.ย. และ นางปวีณา จะประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมให้คุ้มครองครอบครัวเด็กพร้อมกับติดต่อขอรับเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดี พร้อมกันนี้จะประสานกระทรวงการพัฒนาสังคม เข้าไปดูแลสภาพจิตใจเด็ก และประสานกระทรวงศึกษาธิการให้ย้าย ด.ญ.ปุ๋ย เข้าโรงเรียนเฉพาะทางพิการทางสมอง ส่วนเรื่องคดีนางปวีณาจะติดตามความคืบหน้าต่อไป
