จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้บ้านไม้ 2 ชั้น วอดทั้งหลัง ในพื้นที่ ต.คูขาด อ.คง จ.นครราชสีมา โดยบ้านหลังดังกล่าวมีผู้อยู่อาศัย 2 คน เป็น ยายวัย 67 ปี กับหลานชาย วัย 25 ปี ขณะเกิดเหตุหลานชายอยู่บ้านลำพัง และเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนที่จะจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ส่วนยายหนีไปอาศัยอยู่ที่บ้านกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านหลายเดือนแล้ว เพราะทนพฤติกรรมของหลานไม่ไหว เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็น วันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันที่ 24 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คง จ.นครราชสีมา รับแจ้งจาก นางทองดี จันทร์นอก อายุ 67 ปี ว่าหลังเกิดเหตุ หลานชายผู้ก่อเหตุหลบหนีมาอยู่ที่กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ที่ยายหนีมาอาศัยอยู่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่ถูกไฟไหม้ประมาณ 1 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังบุกเข้าจับกุมตัว ทราบชื่อคือ นายยศพล บุตรศรี อายุ 25 ปี เบื้องต้นรับสารภาพว่าโมโหที่แม่ไม่ยอมส่งเงินมาให้ใช้ จึงคลุ้มคลั่งและก่อเหตุเผาบ้านตัวเองเพื่อประชดแม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.คง

นางปทุม นรินทร์นอก อายุ 43 ปี ป้าของนายยศพล กล่าวว่า ในอดีต นายยศพล เป็นคนร่าเริงและเรียนเก่ง เคยได้รับรางวัลผลการเรียนดีของโรงเรียน กระทั่งเรียนจบชั้น ม.6 พ่อ แม่ ของนายยศพล แยกทางกัน ทำให้เริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าว ไปเสพยาเสพติด และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คง จับไปดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดมาแล้ว

หลังพ้นโทษก็มาอาศัยอยู่กับยายที่บ้านหลังที่ถูกไฟไหม้ โดยไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ส่วนแม่ของนายยศพล ไปทำงานอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งส่งเงินมาให้ลูกชายใช้เป็นประจำทุกเดือนๆ ละประมาณ 10,000 บาท ทำให้ นายยศพล ไม่หางานทำ และมีพฤติกรรมก้าวร้าวมาก ชอบทำลายข้าวของในบ้าน และทุบตียายเป็นประจำ

ทำให้ยายต้องหนีไปอยู่ในบ้านกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน เพราะทนต่อพฤติกรรมของหลานไม่ไหว ต่อมาเดือนนี้แม่ยังไม่ส่งเงินมาให้ใช้ นายยศพล ได้พยายามโทรศัพท์ไปขออยู่หลายครั้ง แต่แม่บอกว่าที่ทำงานมีปัญหา เงินเดือนยังไม่ออก จึงยังไม่ส่งเงินมาให้ นายยศพล ไม่ยอมเพราะต้องการใช้เงินด่วน ทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทุบทำลายข้าวของภายในบ้าน และผาบ้านตัวเอง ก่อนหลบหนีไปอยู่กับยายที่บ้านปลายนา และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน