วันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. ร.ต.อ.เปรม เตรียมตัว รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำหญิงสาว บริเวณกลางซอย อดุลยเดช 6 เขตเทศบาลนครอุดรธานี คนร้ายขับขี่รถจยย.หลบหนีไปเส้นทาง อุดร-สกลนคร
หลังจากรับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รองสวป., ร.ต.อ.ฐปนนท์ โชคบัญฑิต รองสว.สส.ชุดสืบและเจ้าหน้าที่เขตงานเมืองทอง ต่อมาทราบว่าผู้เสียหายคือ น.สไพริน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ได้ขี่รถจยย.ไล่ตามคนร้ายไป ก่อนที่คนร้ายมาจนมุม ขี่รถจยย. ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ย้อนศรกลับเข้ามาจึงถูกเจ้าหน้าที่จับตัวเอาไว้ได้บริเวณใกล้กับ ตลาดไทยศิริ
จากการสอบสวนทราบชื่อคนร้ายคือ นายบุคลิก ไชยสัตย์ อายุ 31 ปี ให้การยอมรับสารภาพ ขณะเดียวกัน เมื่อ น.สไพริน ผู้เสียหายมาเห็นคนร้าย ได้เข้าไปถีบคนร้าย 1 ครั้ง พร้อมด่าว่า บอกให้มึงจอด อ้างว่าผมตกงาน สงสารผมเถอะ แล้วไม่คิดเลยหรือว่า ฉันกับลูกจะถูกรถชนตาย จากนั้นก็ตบหัวคนร้ายอีก 1 ครั้ง
น.สไพริน กล่าวว่า ก่อนนี้ได้ออกมาซื้ออาหารกับลูกสาว เมื่อถึงกลางซอยอดุลยเดช6 มีคนร้ายขี่รถจยย. เข้ามาประกบแล้วกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ พร้อมกับพระเลี่ยมทอง 1 องค์ที่คอตน ทำให้สร้อยคอขาดออกเป็น 2 ส่วน โดยพระเหลี่ยมทองตกเข้าไปอยู่ในเสื้อ อีกส่วนติดมือคนร้ายไป
นางไพริน กล่าวต่อว่า จากนั้นตนกับลูกสาว ได้ขี่รถจยย. ไล่ติดตามคนร้าย ไปถึงสี่แยกไฟแดง หน้าศูนย์การค้ายูทาวน์ แล้วโทรแจ้ง 191 แล้วได้ขี่รถจยย.ไล่ตามคนร้ายไปทางถนนนิตโย ใกล้ตลาดเมืองทองเจริญศรี บอกให้คนร้ายหยุดรถ แต่คนร้ายพูดขึ้นมาสงสารผมเถอะตกงาน
คนร้ายได้พยายามจะส่งสร้อยคอทองคำที่ขาดในมือคนร้ายคืนมา ทำให้สร้อยคอส่วนนั้นตกหล่นหายไป ตนได้ขี่รถตามไปจนกระทั่งคนร้ายจนมุม เจ้าหน้าที่จึงจับตัวเอาไว้ได้ สร้อยคอทองคำเส้นนี้กับพระเหลี่ยมทอง แม่ของตนมอบให้ เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ไว้ให้คุ้มครอง เพราะตนต้องไปทำงานต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวคนร้ายไปที่โรงพัก เพื่อที่จะทำการขยายผลต่อว่า คนร้ายได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มากี่ครั้ง ในการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
