กยศ. ยันจำเป็นยึดบ้าน 2 ล้าน ใช้หนี้หลวง 17,000 เผยเหตุผลต้องทำ หลังลูกหนี้ขาดส่ง-ขาดการติดต่อ เปิดเงื่อนไขช่วยเหลือในเบื้องต้น

จากกรณีพี่สาวของผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ร้องเรียนผ่านสื่อว่าถูกสำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ โดยเป็นหนี้กยศ. เพียง 17,000 กว่าบาท แต่กลับถูกบังคับคดียึดบ้านราคา 2 ล้านกว่าบาท ไปขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้นั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กองทุนตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าผู้กู้ยืมถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2551 และศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้เงินต้น 17,868 บาท พร้อมดอกเบี้ย แต่ผู้กู้ยืมไม่ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษา กองทุนจึงจำเป็นต้องดำเนินการสืบทรัพย์บังคับคดี จากการสืบทรัพย์พบทรัพย์สินของผู้กู้ แต่ไม่สามารถยึดได้ เนื่องจากถูกเจ้าหนี้รายอื่นยึดไว้แล้ว กองทุนจึงจำเป็นต้องยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันเมื่อปลายปี 2561 ซึ่งที่ดินดังกล่าวติดจำนองเจ้าหนี้รายอื่นอยู่

ต่อมาช่วงต้นปี 2562 ผู้กู้ยืมชำระหนี้เพียงบางส่วน และไม่ได้ติดต่อกองทุน เพื่อทำบันทึกข้อตกลงงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้ หากผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกันมาติดต่อก็สามารถของดการขายทรัพย์และผ่อนชำระหนี้ได้อีก 6 ปี

จากนั้นสำนักงานบังคับคดีจังหวัดแพร่ ประกาศขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยขายแบบติดจำนอง เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2563 และมีบุคคลภายนอกซื้อในราคา 30,000 บาท โดยการขายครั้งนี้เป็นการขายครั้งที่ 11 ซึ่งในการขายทุกครั้งที่ผ่านมาไม่มีผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันมาดูแลการขาย

กองทุนขอชี้แจงว่า ก่อนบังคับคดี กองทุนพยายามติดต่อกับผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน ทั้งทางจดหมายและทางโทรศัพท์ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนการติดตามหนี้มาโดยตลอด จนในที่สุดกองทุนมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันก่อนคดีจะขาดอายุความ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากเงินกู้ยืมเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชน แต่เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้รายนี้ กองทุนประสานงานกับผู้ซื้อทรัพย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเบื้องต้นผู้ซื้อทรัพย์ยินดีขายทรัพย์คืนให้แก่ผู้ค้ำประกันในราคาซื้อ

กองทุนขอฝากถึงผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันที่ถูกบังคับคดี ขอให้มาติดต่อที่กองทุน เพื่อได้โอกาสในการผ่อนชำระได้อีกไม่เกิน 6 ปี และขอฝากเรื่องการค้ำประกันการกู้ยืมใดๆ ขอให้ผู้ค้ำประกันตระหนักว่า จะเป็นภาระผูกพันทางกฎหมาย โดยขอให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้เป็นปกติเพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้อง จนเดือดร้อนถึงผู้ค้ำประกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบิดามารดาและญาติๆ และกองทุนขอให้ผู้กู้ยืมรุ่นพี่ทุกท่านตระหนักถึงการชำระคืนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป

อ่านข่าว สาวแพร่ แฉเงื่อนงำ น้องเป็นหนี้กยศ.แค่หมื่นกว่าบาท ถูกยึดบ้านทรงไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน