สั่งย้าย 4 ตร.ทางหลวง หลังถูกกล่าวหารีดเงินอดีตเมีย ร.ต.ต. ด้าน ‘บิ๊กแป๊ะ’ สั่งเข้มหากผิดจริงให้ฟันทั้งวินัย-อาญา ลั่นให้เป็นที่พึ่งประชาชน ไม่ใช่โจร

จากกรณี ร.ต.ต.สาธิต ชำนาญ รอง สว.สืบสวน สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ว่า อดีตภรรยาถูกตำรวจทางหลวง 4 นาย รีดไถเงินจำนวน 10,000 บาท เมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 หลังมีรถตำรวจทางหลวง 4 นาย ขับตามมาแล้วส่งสัญญาณให้จอด บอกว่าเป็นรถเถื่อน ทาง ร.ต.ต.สาธิต จึงไปแสดงตัวว่า เป็นตำรวจชุดสืบสวน สภ.จุฬาภรณ์ พร้อมยืนยันว่ารถเก๋งคันดังกล่าวเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เอาทะเบียนมาสวมทับ เนื่องจากเป็นรถที่ใช้ทำงานราชการในการติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด

แต่ตำรวจทางหลวงตอบกลับว่า “คุยกับคุณนายแล้วว่าผมขอเงินกินกาแฟ 10,000 บาท” ร.ต.ต.สาธิต จึงบอกว่า ไม่สะดวกและให้ตำรวจทางหลวงไปเอาเงินที่บ้านอดีตภรรยา จากนั้นอดีตภรรยาได้เข้าแจ้งความที่ สภ.จุฬาภรณ์ เพื่อดำเนินคดีกับตำรวจทางหลวงทั้ง 4 นาย หลังจากนั้นวันที่ 17 มิ.ย. มีบุคคล 6 คน นำทีมโดยนักการเมืองท้องถิ่นมาเจรจาเพื่อคืนเงิน 10,000 บาท ร.ต.ต.สาธิต กับอดีตภรรยา จึงนำเงิน 10,000 บาทไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.จุฬาภรณ์ พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับ 4 ตำรวจทางหลวงจนถึงที่สุด

ร.ต.ต.สาธิต ชำนาญ อดีตสามีผู้เสียหาย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 63 ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของนายตำรวจคนดังกล่าว มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด ส.ทล.4 กก.7 จำนวน 4 นาย ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมที่จะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย 41 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 63

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ในการดำเนินคดีอาญาดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพฤติการณ์กระทำความผิด ซึ่งเข้าข่ายความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการส่งเอกสารสอบสวนและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยัง ป.ป.ท.เขต 8 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว ทั้งในส่วนกรณีที่กล่าวหาตำรวจทางหลวงรับเงินจากทางผู้เสียหาย และกรณีที่นายตำรวจฝ่ายสืบสวน ยศ ร.ต.ต. ร่วมอยู่ในเหตุการณ์เจรจาเรียกรับเงิน และนำภาพคลิปไปร้องเรียนสื่อมวลชน โดยให้รายงานผลการตรวจสอบภายใน 7 วัน

ในส่วนของการดำเนินการทางวินัยนั้น เบื้องต้น พ.ต.อ.รัฐชยุตม์ วัชรโกมลมาศ ผกก.7 บก.ทล ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกิดขึ้น พร้อมมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 4 นายที่ถูกกล่าวหา ไปปฏิบัติหน้าที่อำนวยการ ประจำ ส.ทล.4 กก.7 โดยให้งดปฏิบัติหน้าที่ที่พบปะกับประชาชนและเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ทั้งสองฝ่าย

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว ให้ความเป็นธรรม เน้นย้ำคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เร่งคลี่คลายข้อสงสัยและให้ความกระจ่างแก่สังคม หากพบว่าตำรวจกระทำความผิดตามที่กล่าวอ้างจริง ให้เร่งดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด

ตลอดจนพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ฐานปล่อยปละละเลย ไม่สอดส่องดูแลความประพฤติผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น ซึ่งได้เน้นย้ำตำรวจมาโดยตลอด ให้ทำงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม เป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่เป็นโจร ใช้อำนาจหน้าที่ข่มเหงรังแกประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน