กรณีเฟซบุ๊กของพระลูกวัดองค์หนึ่งได้ เผยแพร่ภาพหญิงนุ่งกระโจมอกภายในวัดพร้อมระบุว่า “วัดศรีวิชัยวัฒนารามมีสีกามานอนในวัดทำตัวเหนือพระ (ใส่ผ้าถุงเดินในวัด) พระที่ไม่เคารพสีกา ต้องอยู่อย่างอัปยศ ใครจะช่วยได้บ้าง?ช่วยแชร์ด้วย” จากนั้นได้มีการแชร์และมีการแสดงความคิดเห็นไปในทางไม่ดีเป็นจำนวนมาก ล่าสุดโพสดังกล่าวได้ถูกลบไปแล้ว
เมื่อเวลา15.00 น. 29 มิ.ย.63 นางจิรประภา เอี่ยวเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วย พระครูอุดมชัยสิทธิ์ เลขาณุการเจ้าคณะจังหวัดชัยนาท พระปลัดเสกสรรค์ ผู้ช่วยเลขานุการฝ่ายปกครอง คณะกรรมการสงฆ์ชัยนาท ปลัดอำเภอเมืองชัยนาท ตัวแทนจาก เทศบาลบ้านกล้วย และ สภ.เมืองชัยนาท ลงพื้นที่วัดศรีวิชัยวัฒนาราม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ตรวจสอบข้อเท็จจริง
นางจิรประภา เอี่ยวเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า หลังจากมีการประชุมและพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้นางสมมาศ ย้ายออกจากวัดไปก่อน แล้วทางคณะสงฆ์จะจัดพระภิกษุมาคอยดูแลหลวงพ่อ โดยปกติมีหลานของหลวงพ่อคอยดูแลซึ่งเป็นผู้ชาย ส่วนประเด็นที่นางสมมาศถูกกล่าวหาเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท
สำหรับหลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านอาพาธ อายุ 87 สุขภาพตอนนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งก่อนหน้านี้นางสมมาศ เป็นคนคอยดูแลเรื่องอาหารให้หลวงพ่อฉัน ปัดกวดเช็ดถูกบ้าง แต่บนกุฏิหลวงพ่อจะมีหลานของท่านอยู่ตลอดไม่ได้อยู่กันสองต่อสอง แต่ตรงนี้เป็นเขตสังฆาวาสซึ่งไม่เหมาะสม จึงให้นางสมมาศออกจากพื้นที่ไปก่อน
นางสมมาศ ฉลาดธัญญกิจ 65 ปี ผู้ถูกโพสภาพนุ่งกระโจมอกในวัด เล่าว่า ภาพที่เขาถ่ายนั้น 3 ปีมาแล้ว ป้าเองไม่รู้เลยว่าเขาถ่ายทำไม ตอนนั้นกำลังจะอาบน้ำ ทำกับข้าวถวายหลวงปู่เสร็จให้หลานชายเขาไปถวายแล้วลงมากระโจมอก จะอาบน้ำ แล้วขยะนำขยะมาวางไว้แล้วไปอาบน้ำ ออกจากห้องน้ำก็เอาขยะไปทิ้งในถังข้างโบสถ์
ป้าเองไม่รู้เลยว่าเขาไม่พอใจป้าเรื่องอะไร ไม่ได้คุยกันไม่เคยสนใจ ไม่ได้มองเขา แต่เขาหาว่าเรามองเขาเหยียดหยามอย่างไรป้าไม่เข้าใจ มองอย่างไรที่ว่าเหยียดหยาม มอบแบบไม่นับถืออย่างที่เขาพูดออกมา เราไม่รู้เรื่องเลย ป้าอยู่มานานนับ 10 ปีแล้ว ไม่เคยมีเจตนาทำให้วัดเสื่อมเสีย วันนี้ลูกสาวมารับแล้ว เก็บข้าวของจะออกจากวัด แล้วจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้แชร์ข้อมูล
“ป้าอยู่มาก่อน 10 ปี เขาเพิ่งบวชได้ 4-5 ปี ทุกวันที่ปฏิบัติ คือ ซักผ้า กวาดกุฏิ ทำกับข้าว ล้างถ้วยชาม พอทำงานเสร็จก็ออกไปทำธุระข้างนอกไม่ค่อยได้อยู่ในนี้ ตอนนี้เห็นว่าท่านสูงอายุและป่วยด้วย อายุ 87 แล้ว ลองคิดดูว่าคนแก่ประมาณนี้จะทำอะไรไหวไหม”
น.ส.นิค หลานป้าสมมาศ เล่าว่า พระองค์ที่นำภาพไปลงก็เป็นหลานของป้าเอง ก็ไม่น่าจะทำ เป็นญาติการแท้ๆเพียงถูกชักจูงไปในทางที่ผิด กลายมาทะเลาะกันเอง ทำให้วัดเสื่อมเสีย และท่านเจ้าอาวาสเสื่อมเสียอีก หากเรื่องเงียบแล้ว หากเขาอนุญาตให้กลับมาได้ ก็จะกลับมาดูแลหลวงปู่ต่อไป ถ้าไม่อนุญาตก็ไม่มา โดยจะกลับไปอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ มีบ้านของลูก 2 หลัง ไม่ใช่ไม่มีบ้านอยู่ ที่ทำเพราะเห็นแก่หลวงพ่อที่ท่านอายุมากแล้ว ไม่มีใครดูแล