เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นายอรรถสิทธิ์ อินต๊ะ อายุ 45 ปี นายช่างโยธาชำนาญงาน สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีต้นมะขามขนาดใหญ่ล้มภายในโบราณสถานวัดบรมพุทธาราม อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วยคนงาน อุปกรณ์เลื่อยยนต์ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบว่ามีต้นมะขนาดใหญ่ อายุหลายร้อยปี ขนาดประมาณ 10 คนโอบ สูงประมาณ 12 เมตร โค่นล้มลงมาจนรากต้นไม้โผล่ขึ้นมา ลำต้นและกิ่งพาดไปถูกตัวเจดีย์ เจ้าหน้าที่เร่งตัดเอากิ่งก้านและลำตัวออกให้พ้นจากตัวเจดีย์
นายอรรถสิทธิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าองค์เจดีย์รายหน้าพระอุโบสถเสียหายเล็กน้อย ต้องเร่งตัดกิ่งมะขามออกเพื่อตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุที่ต้นมะขามล้มเชื่อว่าน่าจะมาจากที่ดินอ่อน ตัวจากการที่ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน อีกทั้งยังพบว่ารากแก้วของต้นมะขามนั้นไม่มีแล้ว และกลางลำต้นยังพบว่าเกิดผุกร่อนเป็นจำนวนมากจึงทำให้ล้มลง โชคดีที่ต้นมะขามไม่ได้ล้ม เข้าไปภายในส่วนของพระอุโบสถ เพราะอาจได้รับความเสียหายมากกว่านี้
สำหรับวัดวัดบรมพุทธารามจัดเป็นโบราณสถานที่สำคัญมีคุณค่าในทางประวัติศาสตร์ ในฐานะเป็นวัดกษัตริย์สร้าง และยังมีคุณค่าในเชิงศิลปะโบราณคดี เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่สามารถศึกษาถึงศิลปะและเทคโนโลยีทางด้านสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย ได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า เชื่อว่ามะขามต้นนี้อยู่คู่วัดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ยืนต้นอยู่ข้างถนนไม่มีใครกล้าตัดออก เพราะความเก่าแก่ เคยมีอุบัติเหตุคนขับรถมาชนตายไปก็มาก ซึ่งคนอยุธยาผ่านไปมามักจะต้องยกมือไหว้ในยามค่ำคืน
