วันที่ 6 ก.ค. พ.ต.ท.พัฒนศักดิ์ อาณัติอักษร รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ร.ต.อ.พอดี ไชยคำหาญ รอง สว.สอบสวน สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจจับกุม นายสุริยง หรือหลง สิมสีพิมพ์ อายุ 37 ปี หลังก่อเหตุใช้ไม้ทุบศีรษะ นายไพศาล เปียเพชรดี อายุ 39 ปี จนเสียชีวิตอยู่ที่ถนนข้าง อบต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรธานี แล้วหลบหนีไปซุกซ่อนตัวในป่าใกล้กระท่อมนา ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา

จากการสอบสวน นายสุริยง ให้การรับสารภาพว่า เป็นโสดมาอาศัยอยู่ที่กระท่อมนาคนเดียวและเป็นเพื่อนกับนายไพศาล โดยผู้ตายมักจะมาหาที่กระท่อมนา และนำสิ่งของมาขายให้ เมื่อตนไม่ซื้อก็จะนำมาวางไว้ วันต่อมาก็กลับมาทวงเงิน ทำให้ทะเลาะกันเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้า วันที่ 5 ก.ค. ผู้ตายนำกระติกน้ำมาขายให้ตน 100 บาท

พอตกบ่ายก็มาทวงเงิน ตนบอกว่าไม่มี ผู้ตายก็บอกว่าลดเหลือ 50 บาท ตนไม่มีเงินให้เพราะตกงาน ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกัน ผู้ตายใช้ท่อนไม้ไผ่ยาวประมาณ 1 เมตร ฟาดตนก่อน แล้ววิ่งหลบหนีออกมา ตนวิ่งตามมาทัน ก่อนแย่งไม้ได้ จึงถีบผู้ตายล้มลง แล้วทุบหัวซ้ำจนตาย ก่อนโยนท่อนไม้ทิ้ง ห่างศพไปประมาณ 20 เมตร

จากนั้นได้ไปดื่มน้ำและล้างมือเปื้อนเลือดที่ อบต.บ้านขาว ก่อนปั่นรถจักรยานไปบอก นายฉัตรชัย มีหาพันธ์ ผญบ.บ้านพรานเหมือน ว่า นายไพศาล ถูกฆ่าตาย แล้ว แล้วต้นก็หนีไปหลบซ่อนตัว จนมาถูกจับกุมดังกล่าว

ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ต่อมา พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังตำรวจคุมตัว นายสุริยง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมี นางตันสี ทีไถล อายุ 70 ปี แม่ผู้ตายพิการตาบอด และชาวบ้านจำนวนมากมามุงดู ซึ่ง นายสุริยง ได้ก้มกราบขอขมา นางตันสี แม่ผู้ตาย พร้อมกับบอกว่า “ผมส่งมันไปดีแล้ว” ซึ่ง นางตันสี ให้อภัย ไม่ถือโทษ เพราะไม่ทราบต้นสายปลายเหตุว่าเกิดจากอะไร เพราะดวงตามองไม่เห็น แต่ก็ให้อภัย นายสุริยง

นางตันสี กล่าวว่า มีลูก 3 คน ผู้ตายเป็นลูกคนสุดท้อง ยังไม่มีครอบครัว มีอาชีพรับจ้างทั่วไป หากินเลี้ยงตัวเอง ส่วนแม่กับพ่อมีลูกสาวไปทำงานกรุงเทพฯ ส่งเงินมาให้ใช้จ่าย เมื่อคืนนี้ผู้ใหญ่บ้านมาแจ้งว่าลูกชายถูกฆ่าตาย จึงให้ นายพล เปียเพชรดี อายุ 83 ปี พ่อผู้ตายออกมาดู เพราะตนสายตามองไม่เห็น ไม่รู้เรื่องอะไร

วันนี้ทราบว่าตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว ก็รู้สึกดีใจ ขอบคุณตำรวจมาก ส่วนศพ นายไพศาล เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินจัดงานศพ จึงมอบศพให้มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมไปฝังที่สุสาน

ด้าน นายฉัตรชัย ผญบ.บ้านพรานเหมือน กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ นายสุริยง ปั่นจักรยานไปบอกว่า นายไพศาล ตายแล้ว จึงออกมาดูก็พบศพ ซึ่งผู้ตายกับผู้ต้องหาเป็นเพื่อนรักไปมาหาสู่กันประจำ ทั้งคู่มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยในหมู่บ้าน และมีเรื่องเสพยาบ้า สูดดมสาระเหย เมื่อ 2 วันก่อน ผู้ตายก่อเหตุลักเครื่องตัดหญ้าชาวบ้าน แต่ผู้เสียหายไม่เอาเรื่อง

ก้มกราบขอขมาแม่ผู้ตาย

ก้มกราบขอขมาแม่ผู้ตาย

หลังเกิดเหตุฆ่ากันตาย อีกคนติดคุก ก็รู้สึกโล่งอก และรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยผู้ต้องหาเคยมาอาละวาดพยายามใช้จอบทุบรถกู้ชีพ แต่มีเจ้าหน้าที่ห้ามเอาไว้ แต่ผู้ต้องหาก็งัดประตูด้านหลังรถ นำเอากระเป๋าพยาบาลออกมา

ขณะที่ พล.ต.ต.พิษณุ เผยว่า หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็น นายสุริยง และติดตามจับกุมได้ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งผู้ต้องหา ในตอนแรกปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น เพราะเคยถูกจับคดียาบ้ามา 5 ครั้ง แต่สุดท้ายต้องเปิดปากยอมรับเพราะตำรวจมีหลักฐานทั้งพยานบุคคล วัตถุพยาน ท่อนไม้ติดคราบเลือด คราบเลือดที่ติดมือ ขวดน้ำ และเสื้อผ้า

ส่วนสาเหตุที่ทะเลาะวิวาทกันเพราะเรื่องยาเสพติด มีหลักฐานตกอยู่ที่เกิดเหตุ คาดว่าจะเป็นสารเสพติด อยู่ระหว่างส่งไปพิสูจน์ตรวจสอบ ส่วนผู้ต้องหาอ้างว่าผู้ตายทวงเงินค่ากระติกน้ำแข็ง แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน