กำนันผู้ใหญ่บ้านโคราช รวมตัวแจ้งความ ช่องส่องผี จี้พิธีกรทำพิธีขอขมา ชี้บิดเบือน ลบหลู่ ดูหมิ่น ขีดเส้นต้องทำพิธีภายใน 15 วัน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่ สภ.เมือง นครราชสีมา นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา กำนันตำบลหนองกระทุ่ม ในฐานะนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา พร้อมพวกซึ่งเป็นกำนัน ผู้ใหญ่ในเขต อ.เมือง และนายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ที่ปรึกษาทางกฎหมาย นัดรวมตัวเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ร.ต.ท อภิชาต ห่ามกระโทก พนักงานสอบสวนเวร

โดยกล่าวหารายการช่องส่องผี เผยแพร่ทางโทรทัศน์ช่อง 8 และ ช่อง 31 รวมทั้งช่องยูทูป ดำเนินรายการโดยนายเชษฐวุฒิ หรือบ๊วย วัชรคุณ นางสุรประภา คำขจร หรือเรนนี่ และนายศราวุฒิ หรือเจมส์ วรพัทธ์ทวีโชติ พิธีกรได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับการลบหลู่ ดูหมิ่น บิดเบือนประวัติศาสตร์ท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ ซึ่งเป็นที่รักและเคารพนับถือและศรัทธาของชาวโคราชและชาวไทย

ซึ่งเป็นข้อความที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ขอให้ดำเนินคดีในข้อหาความผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) คอมพิวเตอร์ พ.ศ 2560

นายศักดิ์ชัย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตนพร้อมพวกได้มาลงบันทึกประจำวันและร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตนในฐานะตัวแทนชาวโคราช ไม่ยินยอมต่อการกระทำที่ไมรู้ที่ต่ำที่สูง ขอให้รายการช่องส่องผีและนางเรนนี่ มาทำพิธีขอขมาในการกระทำของตัวเองต่อหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและให้ชาวโคราชร่วมกันรับรู้เป็นสักขีพยาน ซึ่งการแสดงความรับผิดชอบโดยถอดรายการออกยังไม่เพียงพอ ชาวโคราชให้เวลา 15 วัน หากยังเพิกเฉยหรือมีท่าทีไม่สนใจเราจะมีมาตรการกดดันที่เข้มข้นต่อไป

ด้านนายพรเทพ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ความผิดกรณีดังกล่าว ถือเป็นการดูหมิ่นบุคคลที่เสียชีวิต ผู้เสียหายที่สามารถแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษได้ต้องเป็นผู้สืบสันดานหรือผู้สืบสายโลหิตโดยตรงลงมา ได้แก่ ลูก หลาน เหลน แต่ย่าโมและนางสาวบุญเหลือเสียชีวิตเป็นเวลากว่า 100 ปี การสืบเสาะและเชื่อมต่อระหว่างทายาทต้องมีกระบวนการพิสูจน์หลายอย่างและใช้เวลานานมาก เราจึงหาช่องทางกฎหมาย โดยแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว ซึ่งเป็นความผิด พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ผู้ใดกระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน