หิ้วหนุ่มกระบะหื่นทำแผน ล้วงใต้กระโปรงนักเรียนสาววัย 15 หลังหนีลงใต้ จนแม่กล่อมพาเข้ามอบตัว แจ้ง 2 ข้อหาหนัก พรากผู้เยาว์-กระทำอนาจาร
จากกรณี นร.หญิงม.4 ร.ร.สตรีแห่งหนึ่ง ย่านนนทบุรี ถูกคนร้ายเป็นชายอายุราว 30-40 ปี ผมสั้น สวมเสื้อสีแดง ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ขับรถกระบะสีดำมาจอดที่ใต้สะพานลอย ทำทีเป็นรถเสีย ขอให้นร.หญิงมาช่วยจับพวกมาลัยให้ พอเข้าไปในรถ คนร้ายพยายามทำอนาจารเอามือล้วงใต้กระโปรง แต่นร.หญิงไหวตัวทัน รีบหนีออกจากรถวิ่งเข้าโรงเรียนไปแจ้งอาจารย์ ต่อมารองผอ.โรงเรียนพานักเรียนหญิงเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองนนทบุรี ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ก.ค. หลังเกิดเหตุทาง พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รองผกก.สส.สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมชุดสืบสวนสภ.เมืองนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลและตรวจเช็กกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณหน้าโรงเรียน
จนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุกระทำอนาจารในครั้งนี้ คือ นายมงคล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาวเชียงราย ลูกจ้างร้านจำหน่ายไก่สด ย่านพรานนก มีหน้าที่ขับรถส่งของให้กับพ่อค้า-แม่ค้าตามตลาดสดต่างๆ ใช้ยานพาหนะ เป็นรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีดำ ทะเบียน ณค5219 กรุงเทพมหานคร ก่อเหตุ และมีหมายติดตัวในคดีอนาจารอยู่หลายหมายในพื้นที่ของ บก.น.7 อาทิ สน.บางยี่ขัน สน.ตลิ่งชัน สน.บางกอกน้อย และนนทบุรี พักอาศัยอยู่ภายในชอยจรัญสนิทวงศ์ 29/1
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลังพร้อมหมายศาล เลขที่ 341/63 ลงวันที่ 6 ก.ค.63 เข้าตรวจค้นจับกุมตัวนายมงคล ภายในบ้านพักดังกล่าว แต่ไม่พบตัว คาดไหวตัวหลบหนีไปทัน พบเพียงรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุจึงยึดอายัดรถกระบะมาตรวจสอบเก็บไว้ที่ สภ.เมืองนนทบุรี
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนนทบุรีแกะรอยจนทราบว่า นายมงคลอาจจะหลบหนีการไล่ล่าจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปยังภาคเหนือ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดเชียงรายตรวจสอบ แต่ก็ไม่พบตัว ก่อนที่จะสืบทราบเบาะแสว่า นายมงคลได้เดินทางหลบหนีลงพื้นที่ภาคใต้ ไปหลบพักอาศัยที่บ้านแม่
ต่อมาในเวลา 16.00 น.วันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา แม่ของนายมงคล พาตัวลูกชายเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สภ.เหนือคลอง จ.กะบี่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงอายัดควบคุมตัวมานำส่งต่อมายังสภ.เมืองนนทบุรี (พื้นที่ก่อเหตุล่าสุด) เพื่อทำแผนในจุดเกิดเหตุหน้าโรงเรียนสตรีดังกล่าว
โดยมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบควบคุมตลอดการทำแผน และให้ทางพนักงานสอบสวน สอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 13 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร, กระทำอนาจาร เพื่อรวบรวมสำนวนส่งฟ้องศาลต่อไป
ขณะที่แม่ค้าที่ขายของอยู่ในบริเวณหน้าโรงเรียนสตรีดังกล่าว หลังทราบข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวคนร้ายโรคจิตรายนี้เอาไว้ได้ก็ดีใจ จะได้ไม่ต้องมาระแวงกันอีก เพราะถือเป็นภัยต่อสังคม เด็กและสตรี
