ส่องผีอ่วมต่อ กลุ่มสตรีโคราช นัดรวมตัว แจ้งความเอาผิด พรบ.คอมพ์ ให้เวลา15วัน หากยังนิ่ง ลุยกดดันต่อ ชี้รับผิดชอบด้วยการ ถอดผังรายการ ยังไม่พอ

วันที่ 13 ก.ค. นางสุทิน ชาติพุดซา นายกอบต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรี (กพสอ.) จ.นครราชสีมา นางลภัสรดา ณัฐอาภาพล รองประธานสภาทนายความ จ.นครราชสีมา ที่ปรึกษากฎหมาย นำตัวแทนสตรีในพื้นที่ 25 ตำบล อ.เมือง นัดรวมตัวกันสวมเสื้อยืดสีเหลืองเขียนข้อความว่า “เรารักย่าโม” นุ่งโจงกระเบน โดยสารรถรางมาที่ สภ.เมืองนครราชสีมา

เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษรายการช่องส่องผี มีนายเชษฐวุฒิ หรือบ๊วย วัชรคุณ นางสุรประภา คำขจร หรือเรนนี่ และนายศราวุฒิ หรือเจมส์ วรพัทธ์ทวีโชติ เป็นพิธีกร ในความผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ หลังจากที่รายการนำเสนอเรื่องราวที่เป็นการลบหลู่ ดูหมิ่น บิดเบือนประวัติศาสตร์ท้าวสุรนารีและน.ส.บุญเหลือ ซึ่งเป็นที่รักและเคารพนับถือและศรัทธาของชาวโคราชและชาวไทย

นางสุทิน กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนสตรีอำเภอเมือง นครราชสีมา ได้ติดตามรายการที่มีข้อมูลพาดพิงย่าโม และนางสาวบุญเหลือนานแล้วและอยากทราบรายการช่องส่องผี จะแสดงท่าทีอย่างไร ออกมาขอโทษหรือไม่ แต่ไร้วี่แววหรือความเคลื่อนไหวใดๆ อย่างไรก็ตามชาวสตรีโคราช มีความเคารพศรัทธาย่าโมและนางสาวบุญเหลือในวันฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี วันที่ 23 มีนาคม

ชาวสตรีโคราชได้ร่วมพลังประกอบพิธีรำบวงสรวงย่าโม รวมทั้งอนุสรณ์สถานนางสาวบุญเหลือเป็นประจำทุกปี ดังนั้นการจะพูดสิ่งใดให้ศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนนำไปเผยแพร่ไปทั่วโลก การกระทำของรายการช่องส่องผีเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวโคราชสะเทือนใจและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

ตนในฐานะตัวแทนชาวโคราช ไม่ยินยอมต่อการกระทำที่ไมรู้ที่ต่ำที่สูง ขอให้รายการช่องส่องผีและนางเรนนี่ มาทำพิธีขอขมาในการกระทำของตนเองที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและสถานที่กำหนดไว้ เพื่อให้ชาวโคราชรับรู้เป็นสักขีพยาน การแสดงความรับผิดชอบโดยถอดผังรายการออกยังไม่เพียงพอ เราให้เวลา 15 วัน หากยังเพิกเฉยจะมีมาตรการกดดันเข้มข้นต่อไป

ด้านนางลภัสรดา กล่าวว่า พิธีกรรายการช่องส่องผี เผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ ที่มีการบันทึกไว้ในจดหมายเหตุต่างๆใน จ.นครราชสีมา ซึ่งไม่ตรงความเป็นจริง ส่งผลให้หลายฝ่ายได้รับความเดือดร้อน ถือเป็นความผิด พ.ร.บ คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ผู้ใดกระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้าน พ.ต.ท พงษ์พร เกตุพละ สว.(สอบสวน)สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ความผิดดังกล่าวแล้ว กระบวนการต่อไปเป็นการสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบสำนวนการดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน