วันที่ 4 ส.ค. ที่สำนักงาน ทนายรัชพล ศิริสาคร เลขที่ 8 ซอยประชาราษฎร์ 5 แยก 14/3 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.จิดาภา จรูญรัตน์ อายุ 23 ปี และ น.ส.สุธิดา จิตรสวัสดิ์ อายุ 23 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้ามาปรึกษา ทนายรัชพล หลังไปทำศัลยกรรมที่คลินิกแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา กทม. แต่คลินิกดังกล่าวกลับให้พนักงานเป็นผู้ผ่าตัดจมูกแทนหมอ โดยที่ไม่มีหมอที่มีความชำนาญในด้านนี้คอยกำกับดูแล ทำให้เกิดความเสียหายเมื่อคนที่ผ่าตัดแทน เผลอไปตัดชิ้นเนื้อที่ปลายจมูก จนเป็นสาเหตุให้จมูกเน่าและเสียรูป ซึ่งผู้เสียหายไปทำจมูกเมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

น.ส.จิดาภา กล่าวว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ตนได้ตัดสินใจเข้าไปทำศัลยกรรมเสริมจมูกที่คลินิกดังกล่าว ในราคา 35,000 บาท หลังผ่าตัดผ่านมาได้เพียง 2 เดือน ก็พบว่าจมูกของตนเบี้ยวเสียรูป และบริเวณตรงปลายจมูกเหมือนจะอักเสบและทะลุ ตนจึงได้กลับไปที่คลินิกดังกล่าวเพื่อจะให้แก้ไขจมูกใหม่ แต่ทางคลินิกกลับปฏิเสธปัดความรับผิดชอบ โดยเรียกเงินเพิ่มเพื่อแก้ไขอีก 8 หมื่นบาท

ตนก็ได้ต่อราคาจนเหลือ 5 หมื่นบาท หลังผ่าตัดแก้ไขใหม่สร็จ ทางคลินิกกลับมาเรียกเก็บเงินกับตนเพิ่มอีก 1 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 6 หมื่นบาท ซึ่งตนก็ยอมจ่ายไป แต่หลังจากนั้นไม่นานก็พบว่าจมูกของตนที่ไปรับการแก้ไขมาใหม่ยังคงเบี้ยวเสียรูปอยู่เหมือนเดิม ทางคลินิกก็ปัดความรับผิดชอบอีกตามเคย และบอกให้ตนไปฟ้องร้องเอาเอง ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางชัน ก่อนจะเดินทางมาเข้าปรึกษา ทนายรัชพล ให้ช่วยเหลือในเรื่องคดีความ

ด้าน น.ส.สุธิดา กล่าวว่า เมื่อ 6 เดือนก่อน ตนเข้าไปแก้ไขจมูกที่คลินิกเดียวกับ น.ส.จิดาภา ซึ่งตนประสบปัญหาปลายจมูกของตนบาง เพราะเคยเสริมจมูกมานานแล้ว พอตนมาเข้ารับการแก้ไขจมูกที่นี่ จมูกกลับติดเชื้อ จนต้องกลับมาที่คลินิกแห่งนี้อีกครั้งเพื่อเอาซิลิโคนออก แต่ก็โดนทางคลินิกเรียกเงิน 1,500 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่ายารักษา ซึ่งทางคลินิกปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งหมด และบอกให้ตนไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอาเอง

ทำให้ตนต้องไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอื่นแทน และมารู้ภายหลังว่าคนลงมือผ่าตัดจมูกของตนไม่ใช่หมอ แต่เป็นแค่คนดูโหงวเฮ้งใบหน้า และเป็นคนคนเดียวกับที่ลงมือทำจมูกให้กับ น.ส.จิดาภา ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินเอาไว้ที่ สน.บางชัน เช่นกัน ก่อนจะมาพบ ทนายรัชพล เพื่อดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

ทางด้าน ทนายรัชพล กล่าวว่า จากกรณีของผู้เสียหายทั้ง 2 คน พบว่าคนที่ผ่าตัดให้ไม่ใช่หมอ และมาผ่าตัดให้กับคนไข้ เข้าข่ายตามความผิด พ.ร.บ.เวชกรรม มีโทษ 3 ปี เนื่องจากคนไข้ยินยอมให้แพทย์ทำการผ่าตัด แต่คนที่ผ่าตัดไม่ใช่แพทย์ ถือว่าเข้าข่ายทำร้ายร่างกาย และผู้เสียหายต้องเข้ารับการรักษาตัวเกิน 20 วัน เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย มีโทษติดคุก 10 ปี

เบื้องต้น ทนายรัชพล แนะนำให้ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคลินิกดังกล่าวใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน