จากกรณีมีการโพสต์ภาพคุณยายวัย 62 ชาวนครนายก อยู่บนเตียงในโรงพยาบาล โดยใบหน้ามีบาดแผล พร้อมกับภาพจักรยานยนต์สีส้ม เนื่องจากถูกโจรดักซุ่มในป่าโดดถีบเพื่อชิงรถและทรัพย์สิน โดยเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ‘แหม่มโพธิ์ดำ’

ล่าสุดวันที่ 7 ส.ค. นางสำอางค์ ยืนนาน ยายที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ตอนที่เกิดเหตุตนกำลังเดินทางกลับบ้าน ต้องผ่านเส้นทางถนนคลองกลาง บริเวณถนนเลียบคลอง ซึ่งสองข้างทางจะเป็นป่า ไม่มีไฟส่องสว่าง ปกติก็จะเดินทางเป็นประจำ แต่วันที่เกิดเหตุขณะที่ขี่จักรยานยนต์อยู่นั้น อยู่ๆตนก็วูบหลับไป ไม่รู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาก็พบว่า กระเป๋าเงิน ที่เงินจำนวนกว่า 7,000 บาท พร้อมกับรถจักรยานยนต์หายไป

นางสำอางค์ บอกอีกว่า ก่อนเกิดเหตุก็มีรถยนต์สวนมาตลอด แต่รถที่ตามมาไม่มี พอถึงที่เกิดเหตุก็วูบหลับ แต่ตอนที่ตนสลบคล้ายกับฝันเหมือนได้ยินคนพูดว่า ‘รีบๆไปกันเถอะ’ หลังจากนั้นตนฟื้นขึ้นก็เดินย้อนกลับไปขอความช่วยเหลือที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เบื้องต้นตนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า แต่ตามร่างกายไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลใดๆ

ด้านนายภิญโญ อินธปัญญา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลโรงละคร เปิดเผยว่า ตนขี่รถกำลังจะกลับบ้าน เห็นกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันที่เกิดเหตุ จึงเดินเข้าไปสอบถาม ก่อนจะทราบว่าผู้เสียหายถูกปล้นชิงทรัพย์ แล้วในที่เกิดพบผ้าขาวม้า รองเท้าของผู้เสียหาย และของคนอื่นอีกหนึ่งคู่ตกอยู่ ตนจึงนำมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียหายขี่ จยย. มาจากคลองโพธิ์ มุ่งหน้าไปท่าช้าง แต่ระหว่างทางที่ขี่มานั้น อยู่ๆก็เกิดวูบหลับ พอตื่นขึ้นมาก็นอนอยู่กลางถนน หลังจากนั้นจึงลุกไปนั่งพักอยู่ข้างทาง ก่อนจะเดินไปขอความช่วยเหลือ

ต่อมาชุดสืบสวนของ กองกำกับการสืบสวนจังหวัดนครนายก ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับตั้งข้อสงสัย หลังพบพยานหลักฐานตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คล้ายกับเป็นอุบัติเหตุ และข้างถนนเป็นคลอง สันนิษฐานว่ารถจักรยานยนต์น่าจะตกลงไปในคลอง จึงได้เรียกมูลนิธิกู้ภัยให้ช่วยกันลงไปงมหารถจักรยานยนต์ ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง สุดท้ายก็พบรถจักรยานยนต์สีส้มของนางสำอางค์อยู่ในคลอง พร้อมกับกระเป๋าเงิน

ดาบตำรวจกิตติภูมิ เปิดเผยว่า หลังจากการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ทราบว่าในที่เกิดเหตุพบหลักฐาน คือ รองเท้าแตะสองคู่ 1 คู่เป็นของนางสำอางค์ ส่วนอีกคู่เป็นของคู่กรณี ผ้าขาวม้า จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่าหากเป็นการปล้นชิงทรัพย์จริง โจรคงไม่ทิ้งรองเท้ากับผ้าขาวม้าไว้ หากจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องทิ้งหลักฐานไว้ น่าจะเป็นการต่อสู้ แต่นางสำอางค์ บอกว่าไม่ได้มีการต่อสู้เกิดขึ้น อีกข้อคืออาจเป็นอุบัติเหตุชนแล้วหนี แล้ว จยย. อาจตกลงไปในคลอง

ต่อมาจึงได้ขอกำลังจากมูลนิธิกู้ภัยให้ช่วยมางมหา จยย. จนสุดท้ายก็พบว่าตกอยู่ในคลอง พร้อมกับกระเป๋าเงิน ซึ่งห่างออกไปจากจุดที่นางสำอางค์ ฟื้นขึ้นมา ประมาณ 30 เมตร คาดว่าน่าจะถูกชนลักษณะ เข้าที่ท้าย เพราะบริเวณป้ายทะเบียนมีร่องรอยบิดเบี้ยว ประกอบกับไฟท้ายแตก ซึ่งอาจเป็นแรงส่งทำให้ จยย. วิ่งต่อไปก่อนจะตกลงน้ำ

ส่วนประเด็นคู่กรณีคาดว่าน่าจะกลัวความผิดจึงขี่หลบหนีไป หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

cr.ช่อง3

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน