ตำรวจเกาะพะงันออกหมายจับเยาวชนชาย อีก 1 คน ร่วมกันข่มขืนด.ญ.13 ปี บนเกาะพะงัน หลังผู้เสียหายเข้าให้ปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ เผยหากการสอบสวนโยงใยไปถึงใคร จะต้องดำเนินคดีกับทุกคน ซึ่งไม่สามารถยอมความกันได้
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. จากกรณีที่เด็กหญิงอายุ 13 ปี ถูกล่วงละเมิดทางเพศบนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้นั้น พ.ต.อ.สมชาย นพศรี ผกก.สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนได้พา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ผู้เสียหาย และด.ญ.อีก 2 คน ที่เป็นเพื่อนของด.ญ.เอ ในฐานะพยาน ไปสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย ต่อหน้าสหวิชาชีพ ที่เป็นอัยการ นักจิตวิทยา ซึ่งการให้ปากคำของด.ญ.เอ ผู้เสียหาย และพยาน ให้การสอดคล้องกันและเป็นประโยชนต่อรูปคดีมาก โดยให้การตรงกันว่า ผู้ร่วมก่อเหตุมีนายปริญญา คลิ้งเคล้า อายุ 25 ปี และด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา
พ.ต.อ.สมชาย กล่าวอีกว่า พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ยังสั่งการว่าหากมีใครที่เข้าไปเกี่ยวข้องในคดีนี้ จะต้องถูกดำเนินคดีทุกคน และเป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความกันได้ และในวันนี้ทางพนักงานสอบสวน ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย เพื่อขออนุมัติออกหมายจับด.ช.เอ อายุ 14 ปี ที่ยังหลบหนี ในข้อกล่าวข้อกล่าวหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตนเอง โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
ขณะเดียวกันให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยด.ช.เอ ที่ยังหลบหนีอยู่ พร้อมทั้งประสานชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามตัวในพื้นที่อ.พระแสง และพื้นที่ใกล้เคียงที่คาดว่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และขอฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนผู้ปกครองทุกคน ควรเอาใจใส่ต่อบุตรหลานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงให้มากในเรื่องการคบเพื่อน และอย่าปล่อยให้บุตรหลานออกไปเที่ยวเตร่ตามลำพัง
