พ่อแม่เศร้ารดน้ำศพ ‘น้องกองบิน’ ตร.แจ้งข้อหาคนขับรถตู้-ครู เจ้าตัวรับสารภาพ

พ่อแม่เศร้ารดน้ำศพ ‘น้องกองบิน’ ตั้งศพที่บ้าน ตร.สอบปากคำ แจ้งข้อหาคนขับรถตู้-ครูพี่เลี้ยง กระทำการโดยประมาทฯ เจ้าตัวรับสารภาพ

กรณี ด.ช.ธนกฤต ยอดมณี หรือ “น้องกองบิน” อายุ 2 ขวบ ติดอยู่ในรถตู้รับส่งนักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดศรีมาราม ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ก่อนจะเสียชีวิตที่หอภิบาลผู้ป่วยวิกฤตและวิกฤตเด็ก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง ซึ่งญาติส่งศพน้องกองบินกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แล้วนั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพิธีรดน้ำศพ “น้องกองบิน” วัย 2 ขวบ ที่บ้านใน ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช โดยจะสวดอภิธรรมวันที่ 15-18 ส.ค. คืนวันที่ 19 ส.ค. พระแสดงธรรม โดยพระครูวินัยธร วัดควนสระบัว และวันที่ 20 ส.ค. เคลื่อนศพสู่เมรุวัดห้วยกลางต่อไป ขณะที่บรรยากาศภายในงาน “น้องกองบิน” เป็นไปอย่างโศกเศร้า

ด้าน พ.ต.อ.อาทิตย์ เกิดก่อ ผกก.สภ.พิปูน กล่าวว่า สอบปากคำทั้งฝ่ายผู้เสียหาย และฝ่ายผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นครูและคนขับรถของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดศรีมารามเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในข้อหา “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” และกำลังรวบรวมหลักฐานทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ 2 ผู้ต้องหา และรอผลจาก รพ.อย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไปด้วย

ขณะที่ พล.ต.ต.สนธิชัย อาวุฒนกุลเทพ ผลก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางสภ.พิปูน ลงประจำวันไว้แล้ว ตั้งแต่วันเกิดเหตุและสอบปากคำในเบื้องต้น ตั้งแต่เด็กยังอยู่ในห้อง ไอซียู จึงยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา หลังตนเข้าเยี่ยมเด็กก็กำชับให้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ หลังจากน้องกองบินเสียชีวิต ทางคนขับรถตู้และครูผู้ดูแลก็เข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.พูน และแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหารับทราบไปแล้ว

การสอบสวนคนขับรถและครูผู้ดูแล ซึ่งเป็นข้าราชการก็มาดูแลตั้งแต่ต้น บอกว่าจะดูแลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เจ็บไปจนถึงเสียชีวิต โดยให้ตำรวจเป็นธุระในการดำเนินการ และรอการเจรจาระหว่างผู้ต้องหากับผู้ปกครองของเด็ก เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก มีการกำชับมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งสถานศึกษามีมาตรการในการดำเนินการและทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้น่าจะมีการพลั้งเผลอจนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น