แม่เฒ่า วัย 68 ปี ถูกเครื่องสีข้าวบดร่างดับสยอง
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ร.ต.อ.ชวนัย มารศรี รอง สว. สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุายพานเครื่องสีข้าวดึงร่างคนเสียชีวิต ที่โรงสีข้าวข้างบ้านเลขที่ 430 หมู่ 1 ต.หนองนาคำ จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสามูลนิธิกู้ภัยส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงสีขนาดกลางประจำหมู่บ้าน ภายในพบศพนางบัวลี คำหอม อายุ 68 ปี เจ้าของโรงสี ถูกแกนเพลาพันหัวทิ่มขาชี้ฟ้าอยู่บนเครื่องสีข้าว สภาพศพสวมเสื้อลายดอก กางเกงลายผ้าถุง สวมถุงมือ และรองเท้าบูทยาง พบเสื้อที่ผู้ตายสวมใส่พันอยู่กับแกนเพลา เจ้าหน้าที่ช่วยกันแกะเสื้อออกนำร่างลงมา จากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่าหน้าอกยุบ เนื่องจากแรงอัด เสียชีวิตมาประมาณ 1 ชม.
สอบสวนนายทองศูนย์ ไชยาสุข อายุ 83 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 15 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้เห็นศพคนแรก ให้การว่า วันนี้ตนเดินทางมาซื้อรำไปเลี้ยงเป็ดที่โรงสีผู้ตายเป็นประจำเช่นทุกวันที่ผ่านมา เมื่อมาถึงโรงสีพบว่ากำลังเดินเครื่องทำงานปกติ แต่ไม่พบนางบัวลีเจ้าของโรงสี จึงมองขึ้นไปบนเครื่อง พบศพนางบัวลีพันอยู่กับแกนเพลาเครื่องสีข้าว สภาพหัวทิ่มขาชี้ฟ้า จึงวิ่งออกไปตามคนมาปิดเครื่องโรงสีข้าว และแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบ
นางบัวรัตน์ พิมพ์ศรี อายุ 50 ปี ลูกสาวผู้ตาย ให้การว่า แม่เป็นแม่ม่าย เนื่องจากพ่อเสียชีวิตไปแล้ว แม่เป็นคนขยัน เปิดโรงสีรับจ้างสีข้าวมาประมาณ 30 ปีแล้ว ลูกๆ บอกให้แม่หยุดรับจ้างสีข้าว แต่แม่ก็ไม่เชื่อ ยังรับจ้างสีข้าวตั้งแต่เช้าจนเย็น บางวันก็มีลูกค้ามาก บางวันก็น้อย แต่แม่ก็ไม่เคยบ่นและยังรับจ้างสีข้าวและเลี้ยงหมู กระทั่งมาเกิดเหตุไม่มีใครเห็นจึงช่วยไม่ทัน คาดว่าเครื่องสีข้าวสะดุด แม่จึงเดินขึ้นไปดูกระบุงที่ใส่ข้าวเปลือกใกล้กับแกนเพลา แต่แม่ไม่ได้ดับเครื่อง ทำให้สายพานหรือแกนเพลาพันชายเสื้อแม่ ดึงร่างเข้าไปอัดกับเหล็กแกนเพลาจนถูกบีบร่างเสียชีวิต
ร.ต.อ.ชวนัย มารศรี รอง สว. สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี สันนิษฐานว่า พอเครื่องสีข้าวสะดุด ผู้ตายจึงเดินขึ้นไปดูจุดที่สะดุดใกล้กับแกนเพลาและสายพาน แต่ไม่ได้ดับเครื่อง ทำให้สายพานหรือแกนเพลาดึงชายเสื้อและร่างผู้ตายเข้าไปอัดกับแกนเพลา ทำให้เสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่จะนำร่างไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด เพื่อดำเนินการต่อไป
