จากกรณี นายสุรชัย อะซัน อายุ 28 ปี ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2562 ได้พบเจอเงินหล่นอยู่ท้ายรถตุ๊กตุ๊ก 10,740 บาท จึงนำไปให้สถานีตำรวจ สภ.ป่าตอง และลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ก่อนที่เวลาผ่านไป 1 ปี ได้มีการไปติดต่อสอบถามกับทางตำรวจ สภ.ป่าตอง ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพื่อจะขอรับเงินที่เจอคืน แต่คำตอบที่ได้ คือไม่มีหวังที่จะได้คืน จากคำบอกเล่าของตำรวจคนหนึ่ง ได้บอกว่า เงินนั้นได้ถูกฝากไว้ที่ร้อยเวร ซึ่งตอนนี้ร้อยเวรท่านนั้นได้ถูกออกจากราชการไปแล้ว โดยพยายามติดต่อโดยให้เจ้าหน้าที่ส่งไลน์ไปหา ร้อยเวรคนดังกล่าวอ่านแต่ไม่ตอบ ซึ่งเวลาก็ผ่านมา 1 เดือนแล้วที่ติดตามเรื่องนี้
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 19 ส.ค. พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้มอบเงินจำนวน 10,740 บาท คืนแก่ นายสุรชัย และพร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณในฐานะเป็นพลเมืองดี
พ.ต.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า จากกรณีที่ นายสุรชัย ได้โพสต์ในโลกโซเชียลในประเด็นที่ไม่เข้าใจกัน ในเรื่องที่เขาเก็บเงินได้แล้วมาฝากไว้ที่สถานีตำรวจเป็นระยะเวลาหนึ่งปีแล้ว เขาก็คิดว่าถ้าครบหนึ่งปีแล้วยังไม่คืนเจ้าของ เขาก็จะต้องได้รับเงินนั้นคืนไป ซึ่งเป็นที่ถูกต้อง แต่บังเอิญว่าเขาได้มาติดต่อเพื่อขอรับเงินดังกล่าวจำนวนหลายครั้งที่สถานีตำรวจ แต่เนื่องจากว่าระยะเวลามันเกินไปหนึ่งปี
เมื่อมาสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนาย ซึ่งไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องของการรับเงิน และไม่ได้ชี้แจงให้ นายสุรชัย รับทราบเท่าที่ควร จึงทำให้มีการไปโพสต์ในโลกโซเชียลว่าตำรวจไม่ยอมคืนเงิน หรือ ตำรวจอมเงินบ้าง ซึ่งตนในฐานะ ผกก.สภ.ป่าตอง ผู้รับผิดชอบก็ได้ตรวจสอบ ก่อนติดต่อ นายสุรชัย ให้เข้ามาที่โรงพัก ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการรับเงินไว้จริง และตำรวจก็ได้สืบสวนหาเจ้าของแล้วในระยะเวลา 1 ปี
ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดมารับทรัพย์ไปและเงินดังกล่าวตำรวจยังไม่ได้คืนให้กับผู้ใดไป เนื่องจากไม่มีคนมาแสดงตนเป็นเจ้าของ และตำรวจก็เก็บเงินดังกล่าวไว้ ในวันนี้จึงให้ นายสุรชัย มายื่นคำร้องเพื่อขอรับเงินดังกล่าวตามระเบียบ และทำบันทึกมอบเงินให้เป็นที่ถูกต้อง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีกับประชาชนให้รับทราบว่า คนป่าตองยังมีน้ำใจอยู่ ซึ่งอาจจะเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของการติดต่อราชการเท่านั้นเอง โดยขณะนี้ได้มอบเงินจำนวน 10,740 บาทไปเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ในนามข้าราชการตำรวจป่าตอง และประชาชนชาวป่าตองก็แสดงความขอบคุณ พร้อมได้มอบเงินส่วนตัวเป็นรางวัลสินน้ำใจไปอีกจำนวน 2,000 บาท และได้มอบประกาศเกียรติคุณสำหรับการทำความดีให้เป็นแบบอย่างให้กับประชาชนทั่วไปรับทราบ
