กรณีคนร้ายบุกปล้นเต็นท์รถยนต์มือสอง “วังโต้ คาร์เซ็นเตอร์” ใน อ.นาทวี จ.สงขลา และชิงรถกระบะขับหลบหนีไป 6 คัน ได้แก่รถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ทะเบียน บฉ 7182 ยะลา 2.รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บห5714 สงขลา 3.รถกระบะอีซูซุ แค็บ สีดำ หมายเลขทะเบียน บธ 4063 พัทลุง 4.รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ถศ 3050 กทม. 5.รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 4995 สงขลา และ 6.รถกระบะยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บง 8378 นราธิวาส แล้วจับเจ้าของเต็นท์รถและลูกน้องไปเป็นตัวประกัน ก่อนยิงทิ้งเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน และรอดมาได้อีก 2 คน ส่วนคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 1 ราย ขณะขับรถแหกด่านตรวจเกาะหม้อแกง เขตรอยต่อ อ.เทพา กับ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. รายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่พบรถกระบะมาสด้า ธันเดอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บง 8378 นราธิวาส คนร้ายขับมาก่อเหตุแล้ว จอดทิ้งไว้ในป่าสวนยางพารา ถนนบ้านวังโอ๊ะ-บ้านขายัง ม.3 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ชาวบ้านแจ้งไปยังตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย ให้เข้ามาตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นรถยนต์คันเดียวกันที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุปล้นรถยนต์ที่เต็นท์รถมือสอง อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งคนร้ายได้ชิงมาจากพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
จากนั้นชุดอีโอดีเข้าตรวจสอบภายในรถ พบว่า มีแกลลอนน้ำมันเบนชิน 3 แกลลอน อยู่ท้ายรถ และไม่พบมีวัตถุระเบิด แต่กันพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานภายในรถเพื่อใช้แกะรอยมัดตัวกลุ่มคนร้าย คาดว่าคนร้ายขับรถ เพื่อเป็นเส้นทางหลบหนีจาก อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มุ่งหน้าเข้าไปในพื้นที่ อ.กาบัง จ.ยะลา ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน แต่เกรงว่าจะพบด่านสกัดของเจ้าหน้าที่ จึงได้จอดรถทิ้งไว้แล้วหลบหนี
รายงานข่าวว่า พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภาค 9 ได้เดินทางลงพื้นที่พร้อมด้วยกับชุด อีโอดี เข้าตรวจสอบพบน้ำมันเบนซิน 3 แกลลอน แต่ไม่พบระเบิดภายในรถกระบะมาสด้า หลังคนร้ายนำจอดในสวนยางพารา ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
รายงานข่าวจากชุดสืบสวนระบุว่า จากการสอบสวนพยาน รู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว มีทั้งหมด 7 คน โดยปิดบังใบหน้า 2 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม สามารถออกหมายจับได้ 4 คน ภายใน 1-2 วัน เพราะพยานได้ชี้ตัว ยืนยันจากรูปตรงกันหมดทุกคน
รายงานข่าวว่า จากการสอบสวนผู้ที่รอดชีวิต 3 คนเล่าเหตุการณ์ว่า คนร้ายขับรถกระบะมาจอดหน้าเต็นท์รถและลงจากรถเข้ามาจับกุมพวกตนทั้ง 4 คน โดยจับมัดมือ มัดเท้า โดยเฉพาะคนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิตเข้าไปทำร้าย นายประทานพร นวลละมุน บังคับเอากุญแจรถทั้ง 6 คันมาให้ และทยอยกันขึ้นรถขับออกไป โดยจับเจ้าของเต็นท์รถและลูกน้อง 4 คนใส่ท้ายรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ถษ3050 กทม. และมุ่งหน้าเข้าพื้นบ้านวังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อต้องการนำไปยิงทั้ง 4 คน เพื่อปิดปากเ พราะจำหน้าของคนร้ายได้
“คนร้ายขับรถไปจอดริมถนนในป่าสวนยาง ถนนดินแดง ม.8 บ้านควนหินเภา ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา และคนร้ายมีเพียงคนเดียว ก่อนจะลากทั้ง 4 คนลงจากรถ และจับตัวนายประทานพร ไปรัดคอ แต่นายประทานพรแกล้งสลบ คนร้ายจึงยิงที่บริเวณไหล่ของนายประทานพร ก่อนทำเป็นแกล้งตาย จากนั้นใช้อาวุธกระบอกเดียวกันจ่อยิงศีรษะนายสหัฐ ส่วนนายธานีศักดิ์เจ้าของเต็นท์รถ กับนายวีระศักดิ์ พนักงานเต็นท์วิ่งหนีได้ จากนั้นคนร้ายถอยรถกระบะทับร่างนายประทานพรเพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิต แต่โชคดีที่นายประทานพรเบี่ยงตัวหลบทัน คนร้ายจึงรีบขับรถออกไป เพราะมีชาวบ้านได้ยินเสียงปืน และออกมาเข้าช่วยเหลือทั้ง 4 คน” รายงานข่าวระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่เต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ ปิดให้บริการ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม เจ้าของเต็นท์และพนักงานที่รอดชีวิต ยังอยู่ในอาการขวัญผวา
