สุราษฎร์ฯเกตเวย์ – จุดเช็คอินพร้อมจุดพักผ่อนระหว่างการเดินทางแห่งใหม่ “สุราษฎร์ฯเกตเวย์” สำหรับการเดินทางเพื่อลดอุบัติเหตุเพิ่มความปลอดภัย ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ที่จุดพักผ่อนระหว่างการเดินทางแขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่3(เวียงสระ)ริมถนนสายเอเซีย41(ขาล่อง) หมู่ที่ 8 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี สร้างเป็นจุดแลนมาร์กแห่งใหม่สวยงาม สร้างปูนปั้นสัญลักษณ์ของกินแหล่งท่องเที่ยว ของดีมีชื่อเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้นักเดินทางที่เดินทางล่องใต้ได้เป็นจุดพักผ่อนระหว่างการเดินทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางที่ใหม่
ว่าที่ร้อยตรี วรินทร์ ฟุ้งเฟื่อง ผอ.แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 3 (เวียงสระ) กล่าวว่า กรมทางหลวง โดยนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ได้มีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องการลดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางรวมไปถึงการท่องเที่ยวโดยการสัญจรทางถนน แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 3(เวียงสระ) จึงได้จัดทำแผนเพื่อขออนุมัติงบประมาณ เพื่อจัดสร้าง “สุราษฎร์ฯเกตเวย์” จุดพักผ่อนระหว่างการเดินทาง
สำหรับนักเดินทางในช่วงเทศกาลต่างๆ รวมไปถึงช่วงที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องกัน ในส่วนของจุดพักผ่อนระหว่างการเดินทางที่จัดสร้างขึ้นใหม่ตรงบริเวณจุดบริการประชาชนตำรวจทางหลวง ริมถนนสายเอเซีย 41 (ขาล่อง) เพราะถึอว่าเป็นจุดที่เหมาะสมถ้าเดินทางมาจาก กทม.เพื่อจะลงใต้ถือว่าอยู่ในช่วงครึ่งทางของการเดินทาง จึงได้ทำการปรับภูมิทัศน์โดยรอบให้มีที่จอดรถที่ปลอดภัยมากขึ้น
รวมถึงให้นักเดินทางได้มีจุดพักผ่อนระหว่างการเดินทาง และเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ โดยได้สร้างปูนปั้น เป็นเอกลักษณ์ต่างๆทั้งของกินและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เช่น เงาะโรงเรียนนาสารอำเภอบ้านนาสาร,ไข่เค็มไชยาอำเภอไชยา,หอยนางรมอำเภอกาญจนดิษฐ์,ดอกบัวผุดอำเภอพนม,เขาสามเกลอในเขื่อนรัชชประภาอำเภอบ้านตาขุน,หอยแครงอ่าวบ้านดอน, และกุ้งแม่น้ำในแม่น้ำตาปี รวมไปถึงรูปปั้นช้างซึ่งเป็นสัญลักษณ์สัตว์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศ
ทั้งนี้แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่3(เวียงสระ) ดำเนินการจัดสร้างใกล้แล้วเสร็จแล้ว และคาดว่าจะสามารถรองรับนักเดินทางที่จะเดินทางลงใต้ รวมถึงนักท่องท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวระหว่าง วันที่ 4-7 ก.ย.ที่จะถึงซึ่งคาดว่าจะมีการเดินทางเป็นจำนวนมากได้มีจุดพักผ่อนระหว่างการเดินทางและจุดเช็คอิน เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนต่อไป
