อ.หมีผวาคุก! เปิดป่าช้าในบ้านพิสูจน์ผีตายโหง ยอมรับจัดฉาก ลั่นเลิกแล้วขอเป็นสายขาว

จากกรณีมีคลิปการทำกุมารทองที่บรรจุกระดูกมนุษย์ โดยมีอาจารย์ไสยศาสตร์ทำพิธีปลุกเสก ซึ่งระบุว่า ขโมยเถ้ากระดูกคนตายไปปลุกเสกเป็นกุมารทองส่งขายประเทศเวียดนาม กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล ต่อมาตำรวจ สภ.หนองเสือ บุกตรวจสำนักพ่อครูหมี ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ของ นายธฤต เพชรทอง หรือ พ่อครูหมี อายุ 33 ปี โดยอาจารย์หมี ยอมรับภาพเป็นคนในคลิป แต่เป็นภาพเก่าของปีที่แล้ว เคยทำกุมารทองส่งขายให้ชาวเวียดนามจริง แต่ปัจจุบันเลิกมากว่า 1 ปีแล้ว

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 3 ก.ย. ที่สำนักพ่อครูหมี นายธฤต เพชรทอง หรือพ่อครูหมี เปิดสำนักชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อดังนำคลิปวีดีโอและรูปขณะทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์มาเผยแพร่บนโลกสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่องจนได้รับความเสียหาย พร้อมพาตรวจค้นหากระดูกขี้เถ้าผีตายโหงเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

นายธฤต กล่าวว่า สำหรับเพจชื่อดังที่นำรูปภาพตนไปโพสต์ซึ่งเป็นเหตุการณ์ขณะทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ และระบุข้อความว่ายังส่งตุ๊กตาลูกเทพให้ลูกค้าในเวลา 16.15 น. ของวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ขอยืนยันว่าเป็นภาพเก่าทั้งหมด และได้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวแล้วตั้งแต่เมื่อต้นปี ส่วนกรณีพบป้ายหลุมฝังศพ 2 แผ่น โดยระบุชื่อนางส้ม แขกขาว ชาตะ 14 ก.พ. 2550 และ ด.ช.กรรณ ไม่ได้ระบุชาตะ ซึ่งทั้งคู่มรณะในวันเดียวกันคือ 10 มิ.ย. 2563 ที่พบในสวนด้านหลังสำนักนั้นแท้จริงทั้งคู่ไม่มีคนตัวเพียงแค่เป็นการจำลองเหตุการณ์ให้เสมือนป่าช้า และถ่ายภาพเก็บไว้ก่อนส่งให้ลูกค้าชาวต่างชาติเพื่อจัดฉากสร้างความน่าเชื่อถือ โดยสร้างสถานการณ์มาตั้งนานแล้ว แต่พิธีกรรมการปลุกเสกตุ๊กตาลูกเทพเป็นของจริง

เปิดป่าช้า

ส่วนภาพขี้เถ้าที่มีลักษณะใหม่หลุดออกมานั้น ขอยอมรับว่าเมื่อวานได้นำสิ่งของเหลือใช้ไปเผาทิ้งโดยไม่ได้หวังทำลายหลักฐาน หากมีกระดูกคนก็ยากต่อการหลีกเลี่ยงในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ผมไม่เกรงว่าจะถูกดำเนินคดีฐาน “ฉ้อโกงประชาชน” เนื่องจากไม่ได้จำหน่ายให้คนไทยภายในประเทศไทย ก่อนหน้านี้ระหว่างการปลุกเสกก็เกิดอภินิหารทั้งเสียงสุนัขเห่าหอน ลมพัดแรง และเสียงเดินอยู่รอบตัว ซึ่งผมเคยมีความรู้สึกถูกดวงวิญญาณบีบคอขณะนอนหลับจึงคว้าลูกประคำฟาดไปก่อนหลุดจากเหตุการณ์ตรงนั้นออกมาได้ แต่ไม่เคยเห็นกับตา ผมยอมรับว่า “หากินกับความตายของผู้อื่น” แต่ในเมื่อเรียนวิชามาก็ต้องลองเพื่อให้รู้ว่าทำได้หรือไม่ สำหรับธุรกิจตรงนี้ก็ต้องยุติลงเพราะเกรงกลัวต่อกฎหมาย ”

เปิดป่าช้า

นายธฤต กล่าวต่อว่า เริ่มต้นการปลุกเสกตุ๊กตาลูกเทพของตนไม่เคยใช้กระดูกคนตาย แต่ชาวต่างชาติไม่ยอมเพราะไม่น่าเชื่อถือ ส่วนการเรียกวิญญาณก็สามารถเรียกได้ตามทั่วๆไป แต่หากกระดูกนั้นเป็นวิญญาณนั้นด้วยก็จะเพิ่มความขลัง ซึ่งศพตายโหงในวันเสาร์และเผาวันอังคารก็จะยิ่งเฮี้ยนและมีราคาสูงกว่าปกติ 3-4 เท่าตัว และบางตัวเคยแสดงอิทธิฤทธิ์ถึงขั้นฉีกกล่องขณะที่ตนเตรียมบรรจุส่งมอบให้ลูกค้า ซึ่งตนได้รับความไว้วางใจจากชาวเวียดนามให้เป็นเบอร์ 1 เรื่องการปลุกเสกลูกเทพ ในอนาคตตนจะเปลี่ยนจากกระดูกมาเป็นว่านมงคลเพื่อให้เป็นสายขาวแทน”

เปิดป่าช้า

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานบริเวณด้านหลังสำนัก พบเศษหุ่นปั้นดินเผาแตกออกเป็นเสี่ยงๆลักษณะเพศชายโดยที่บริเวณศรีษะมีตะปูตอกฝังอยู่ ซึ่งนายธฤต บอกว่า เมื่อมีเวลาว่างได้นำดินมาปั้นเล่นโดยไม่ได้มีพิธีกรรมสะกดวิญญาณแม้แต่อย่างใด ขอฝากไปถึงเจ้าของเพจคู่กรณีด้วยว่า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยากจะขอความกรุณาเวลาจะกล่าวหาใครช่วยตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ในวันนี้นักข่าวได้ลงพื้นที่ก็ไม่พบกระดูกหรือปิดบังซ่อนเร้นอะไรควรจะหยุดพฤติกรรมดังกล่าวได้แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะปรึกษาทนายความเพื่อเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน