ชาวบ้านทั้งในและต่างจังหวัด แห่กันไปรักษาที่คลินิกของคุณหมอหนุ่มชาวตรัง วันละ 200-300 คน เพราะใจดี ตั้งใจที่จะรักษาคนป่วย และคิดค่ารักษาถูก ด้านเจ้าตัวเผยจะขอทำดีเช่นนี้ตลอดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีคลินิกให้บริการราคาถูก ทำให้มีคนมารักษาแน่นขนัด โดยพบว่าคลินิกดังกล่าว เป็นคูหา 2 ห้องติดกัน ตั้งอยู่เลขที่ 199-200 ถนนเพชรเกษม ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง หรือบริเวณ 4 แยกอันดามัน (ฝั่งขาเข้า) ปรากฎว่า ได้มีชาวบ้านทั้งในและต่างจังหวัด มารอรับบริการจากคลินิกแห่งนี้อย่างแน่นขนัด ไม่ต่ำกว่าวันละ 200-300 คน เนื่องจากมีเสียงล่ำลือแบบปากต่อกันปากว่า นายแพทย์วิโรจน์ ทองโอเอี่ยม แพทย์ผู้ชำนาญด้านโรคทั่วไป ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกห้วยยอดรวมแพทย์คลินิกแห่งนี้ นอกจากจะใจดีแล้ว ยังคิดค่ารักษาพยาบาลในราคาถูก แถมบริการดีเยี่ยมอีกด้วย ทำให้ผู้ป่วยทั้งใกล้ไกล ในจังหวัดตรังหรือใกล้เคียง เดินทางมาขอรับการรักษาอย่างไม่ขาดสาย

 

จากการสอบถามผู้ป่วย รวมถึงญาติที่มารอรับบริการ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกประทับใจ เพราะคุณหมอใจดี มีน้ำใจ และตั้งใจที่จะรักษาคนป่วยแบบไม่ค้ากำไรจนเกินไป บางคนป่วยไป รพ.รักษาไม่หาย แต่พอมาที่คลินิกแห่งนี้อาการกลับดีขึ้น ซึ่งถ้าดูชนิดของยาที่ได้รับ ชาวบ้านบอกว่า คุณภาพก็เหมือนกัน รพ.รัฐ และเอกชนทั่วไป แต่ต่างกันที่ราคา ที่ถูกมาก หรือสูงสุดไม่เกิน 280 บาท รวมทั้งค่าฉีดยา ค่าเอ็กซเรย์ ค่าตรวจเลือด และให้ยากลับไปรับประทานที่บ้านด้วย

201610130820194-20021028190209
อย่างไรก็ตาม หากผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยรายใด ถ้าไม่มีเงิน คุณหมอรายนี้ก็จะรักษาให้ฟรี ในขณะที่บางคนมาขอรับการรักษา ด้วยการนำสิ่งของที่หาได้จากบ้าน เช่น ผัก ผลไม้ หรืออาหารสด ที่หาได้ในแต่ละวัน มาตอบแทนเป็นค่ารักษาก็มี ทำให้แต่วันมีผู้ป่วยมารอรับบริการเป็นจำนวนมาก สำหรับห้วยยอดรวมแพทย์คลินิก จะเปิดให้บริการวันละ 2 รอบ คือ ในรอบเช้า เวลา 07.00-13.00 น. และรอบบ่าย ในเวลา 15.00-20.00 น. หรือจนกว่าคนไข้จะหมดทุกวัน

 

ด้าน นพ.วิโรจน์ ทองโอเอี่ยม วัย 38 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาเป็นชาวอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง กล่าวว่า ตนเปิดคลินิกนี้มาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ตั้งใจให้ชาวบ้านมารักษาในราคาที่เป็นธรรม มีค่ายาไม่แพงจนเกินไป มีวิธีการรักษาที่ถูกต้อง และหายจากการอาการป่วยได้อย่างรวดเร็ว เพราะตนคิดว่าหากมีการคิดกันจริงๆ ต้นทุนของราคายารักษาโรคทั่วไปไม่ได้สูงอย่างที่คิด บางชนิดแค่เม็ดละ 0.50 สตางค์ – 1 บาทเท่านั้น แต่สถานพยาบาลหลายแห่งกลับคิดราคาที่แพงเกินจริง ซึ่งเห็นว่าเป็นการเอาเปรียบกันเกินไป และตนเองก็อยากจะเป็นผู้ให้ ได้แบ่งปันกับชาวบ้าน หรือเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยอีกทางหนึ่ง

 

สำหรับค่าเอ็กซเรย์ที่ตนคิดราคาถูกกว่าที่อื่นได้นั้น เป็นเพราะตนได้ลงทุนจ้างโปรแกรมเมอร์มาออกแบบเครื่องมือในระบบดิจิตอล จนสามารถประมวลผลได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้ฟิล์มเอกซเรย์เหมือนสถานพยาบาลทั่วไป ซึ่งมีต้นทุนค่อนข้างสูง เนื่องจากเครื่องเอ็กซเรย์ของตนลงทุนแค่ครั้งเดียว แต่สามารถรักษาผู้ป่วยได้ผลดีไม่แพ้ระบบเดิม อย่างไรก็ตาม ตนก็จะให้บริการที่คลินิกในลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ และตลอดไป แม้ว่าค่ารักษาจะถูกกว่าที่อื่นมาก โดยเฉพาะค่าวินิจฉัยโรคผู้ป่วย จะคิดแค่คนละ 30 บาทเท่านั้น เพราะแค่นี้ตนก็อยู่ได้แล้ว และอย่างน้อยที่สุดก็ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน