เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.แม่สอด จังหวัดตาก ได้รับแจ้งจากสายด่วน 191 จากข้าราชการครูสาว ขอความช่วยเหลือเร่งด่วน หลังเกิดเหตุมีคนโรคจิตแอบเข้าบ้านพักข้าราชการครู ก่อเหตุถ้ำมองครูสาวอาบน้ำแล้วหลบหนี โดยเหตุเกิดภายในบ้านพักข้าราชการครู โรงเรียนบ้านม่อนหินเหล็กไฟ หมู่ที่ 3 ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยหลังรับแจ้งเหตุ ตำรวจสายตรวจตำบลมหาวัน พร้อม ผู้สื่อข่าวได้รีบลงพื้นที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน
เมื่อตำรวจเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุพบว่า โรงเรียนสร้างอยู่กลางเนินเขาใกล้กับชุมชนคนดอย ติดถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง ใกล้แนวชายแดนไทย-เมียนมา และเมื่อเจ้าหน้าที่เดินเท้า เข้าไปที่บริเวณรอบบ้านพักข้าราชการครูที่สร้างด้วยไม้หลังเก่า ซึ่งอยู่ด้านหลังโรงเรียน และพบตัว นางสาว ชลลดา วงศ์ชมพู อายุ 37 ปี ข้าราชการครู ประจำโรงเรียนบ้านม่อนหินเหล็กไฟ ยืนรอให้การกับตำรวจด้วยอาการตกใจขวัญผวา จนเจ้าต้องเข้าไปพูดจาปรับสภาพจิตใจ ก่อนครูสาวจะพาตำรวจเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่าที่บริเวณด้านหลังห้องน้ำของบ้านพักครู มีเก้าอี้ไม้วางทิ้งไว้ติดกำแพงห้องน้ำที่มีรูระบายอากาศเป็นช่องแนวยาวตามแนวอิฐบล็อกแนวกำแพงห้องน้ำ และที่พื้นดินยังพบรอยเท้าที่คาดว่าเป็นของ คนร้ายโรคจิตที่มาก่อเหตุถ้ำมอง ปรากฏอยู่หลายรอย ตำรวจจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน
จนในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถควบคุมชายต่างด้าว ต้องสงสัยที่มีอาการส่อพิรุธ และมีอาการเมาสุรา ที่แอบซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักครูมากนัก ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวน และทราบชื่อผู้ต้องสงสัย ชื่อ นาย เย่ เอ ไม่มีนามสกุล อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นคนงานภาคเกษตรในสวนกุหลาบ เบื้องต้นนาย เย่ เอ ให้การปฏิเสธ และให้การวกวนและไม่กล้าสบตาครูผู้เสียหาย จึงถูกคุมตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดที่ทำการสายตรวจตำรวจตำบลมหาวัน
จากการสอบถาม นางสาว ชลลดา วงศ์ชมพู ครูผู้เสียหายให้การกับตำรวจว่า บ้านพักครูหลังนี้มีครูซึ่งเป็นครูผู้หญิงล้วนและเป็นครูบ้านไกล นอนพักอาศัยรวมกันจำนวนสามคน โดยที่ผ่านมาบ้านพักครูหลังนี้ได้เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้ามาเพื่อจะขโมยทรัพย์สินมาแล้วสามครั้ง แต่จับกุมคนร้ายไม่ได้ แต่ที่น่ากลัวไปมากกว่านั้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุแอบมาถ้ำมองแอบดูครูสาวทั้งสามคน ในขณะปฏิบัติภารกิจส่วนตัวภายในห้องน้ำในบ้านพักครูมาแล้วหลายครั้ง แต่จับกุมตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้สักครั้ง เนื่องจากคนร้ายไหวตัววิ่งหลบหนีเนื่องจากการชำนาญในพื้นที่
จนล่าสุดเมื่อช่วงเช้าครูสาวสองคน ที่อยู่ในอาการขวัญผวา ได้เดินทางกลับบ้านนอกเขตอำเภอ เนื่องจากเป็นวันหยุด เหลือตนเองเพียงคนเดียวที่พักอยู่ภายในบ้านพักหลังนี้ แต่เหตุการณ์ที่ครูเกรงกลัวก็กลับมาอีกครั้ง เนื่องจากระหว่างที่ตนเองกำลังอาบน้ำอย่างมีความสุข ภายในห้องน้ำของบ้านพักครู ก็พบว่าที่ช่องลมระบายอากาศ พบมีสิ่งผิดปกติสีดำ คล้ายมีดวงตาคนแอบจ้องมองตนเองอาบน้ำตนเองจึงตกใจมาก รีบใช้สายยางฉีดน้ำเข้าไปที่ช่องระบายอากาศด้วยแรงน้ำแรงดันสูง จนน้ำเข้าตาผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังกระพริบตาสู้แรงน้ำอย่างอดทน และยังจ้องมองตนเองต่อไป ตนเองตกใจกลัวมากจึงหวีดร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ก่อนจะรีบคว้าผ้าขนหนูมาปิดปกป้องร่างกาย แล้วรีบวิ่งออกจากห้องน้ำไปใส่เสื้อผ้า แล้วรีบกดสายด่วนฉุกเฉิน 191
จนเวลาผ่านไปห้านาที ตำรวจ สภ.แม่สอด จึงเดินทางมาช่วยเหลือตนเอง ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปได้ ซึ่งครูสาวท่านนี้ยังกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ครูผู้หญิงภายในโรงเรียนและที่พักอยู่บ้านพักหลังนี้ ต่างขวัญผวากับโจรโรคจิตและคาดว่าน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุหลายคน เนื่องจากมีรอยเท้าหลายรอย และครูสาวได้วิงวอนขอให้ตำรวจ นำตู้แดงสายตรวจมาติดตั้งภายในโรงเรียนอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้เพื่อให้ตำรวจเข้ามาตรวจตราภายในโรงเรียน เพื่อสร้างความอุ่นใจและสร้างความปลอดภัยภายในโรงเรียนแห่งนี้ เนื่องจากเกิดเหตุมาแล้วหลายครั้งจนครูสาวไม่กล้านอนพัก แต่ก็ต้องนอนพักอาศัยต่อไป เพราะต้องทำหน้าที่ครูสอนหนังสือให้เด็กนักเรียนดอยต่อไปตามอุดมการณ์ ครูดอยชายแดน
เบื้องต้นตำรวจสอบสวน นาย เย่เอ ผู้ต้องสงสัยยังให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากยังให้การวกวน ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวว่าเบื้องต้นว่า เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่งตัวดำเนินคดี ส่วนระยะยาวตำรวจ จะเพิ่มความเข้มงวดจัดกำลังสายตรวจ เข้าไปตรวจตราภายในโรงเรียนแห่งนี้ทุกชั่วโมงทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจและสร้างความปลอดภัยให้ข้าราชการครูสาวต่อไป